เมื่อเวลา 11.00 น. 19 ก.ย.ที่ กก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.ชูศักดิ์ อภัยภักดิ์ รอง ผกก. (สอบสวน) กก.1
พ.ต.ต.หญิง นลินี เชี่ยวน้อย สว.สอบสวน กก.1 บก.ปคม. สอบปากคำ น.ส.อ้อย และ น.ส.บอล อายุ 17 ปี 2 ผู้เสียหายคดีป๋าเกิดต่อหน้าพนักงานอัยการ และนักสังคมสงเคราะห์ ต่อจากเมื่อคืนที่หยุดพักไปตอน 2 ทุ่ม เพื่อรวมรวมคำร้องขออนุมัติหมายจับป๋าเกิด

 

ทั้งนี้ หลังสอบปากคำ อ้อย 1 ในผู้เสียหายได้เปิดเผยว่า ตนเข้ามาทำงานโคโยตี้ในคณะนินิวส์ โมเดลลิ่ง เมื่อประมาณ พ.ย.59 ทำตอนนั้นอายุเพิ่งครบ 17 ปี พี่สาวติดต่อให้ โดยได้รับค่าแรงวันละ 700 บาท มีงานแสดงเต้นทุกวัน ตอนที่เสร็จป๋าเกิดหลังจากเข้ามาทำงานได้เดือนที่สอง โดยป๋าเกิดเห็นว่าตนไม่มีโทร.มือถือใช้ เสนอว่าถ้าอยากจะได้มือถือไว้ใช้ก็ต้องยอมแลกกับการหลับนอน ตนอยากได้ไว้ใช้ติดต่อพูดคุยกับญาติพี่น้องเลยร่วมหลับนอนด้วยเพียงครั้งแรกและครั้งเดียว โดยป๋าเกิดใส่ถุงยางอนามัย หลังจากนั้นป๋าเกิดอยากจะมีอะไรกับคนอีกตนก็ปฏิเสธทุกครั้งไป โดยป๋าเกิด ได้ซื้อมือถือยี่ห้อซัมซุง เอส 5 ที่มารู้ภายหลังว่าเป็นมือสอง ราคาไม่น่าจะเกินสามพันบาท แต่แกอ้างว่าซื้อมาราคาห้าพันบาท โดนป๋าเกิด ให้เมียแกคน 1 ที่มีทั้งหมด 4 คน เป็นคนหักเงินจากค่าตัวการแสดงเต้นที่มีงานทุกวัน ๆ ละ 200 บาท

“ส่วนทอมบอย คนที่ป๋า เกิดทำท้องแล้วไปผูกข้อมือกับพ่อแม่ แยกตัวไม่ได้อยู่กับป๋าเกิดแล้ว โดยป๋าเกิด มีเมีย 4 คน มีลูกด้วยทั้งหมดรวม 5 คน เมียป๋าเกิดจะแยกกันคุมดูแลผลประโยชน์จากการแสดงโคโยตี้ตามผับต่างๆ ทั้งสีลม ซอยคาวบอย และซอยนานา จะมีทอมบอยเป็นคนควบคุมดูแลคณะแสดงโคโยตี้อีกทอดหนึ่ง ซึ่งแต่ละที่เครดิตป๋าเกิดไม่ค่อยดีเนื่องจากจะถูกจับกุมกรณีมีเด็กมาร่วมแสดงในคณะ ถ้าผับบาร์ร้านไหนรู้ว่าเด็กโคโยตี้มาแสดงเป็นของป๋าเกิด ก็จะไม่ยอมให้เข้ามาเต้นแสดงอีก ทำให้ต้องป๋าเกิดใช้วิธีให้ทอมบอยไปตั้งเป็นคณะโคโยตี้มารับเด็กจากคณะของนินิวส์ไปแสดงอีกที”

 

ทั้งนี้ การเต้นแสดงในแต่ละคืนจะแสดงที่เดียว คือ ถ้าเต้นที่นานา ก็จะเต้นตลอดทั้งคืนตั้งแต่สองทุ่ม ถึงตีสาม พอวันรุ่งขึ้นก็จะเปลี่ยนไปเต้นแสดงที่สีลม สองทุมถึงตีสาม พอรุ่งขึ้นอีกวันก็ไปเต้นแสดงที่ซอยคาวบอย สลับทุกวันเพื่อให้ลูกค้าต่างชาติชม และซื้อดริ้งค์เลี้ยง โดยราคาที่ร้านจำหน่ายลูกค้าดริ้งค์ละ 150,200,250 บาท โคโยตี้แต่ละคนจะได้ส่วนแบ่งในการเชียร์แขกซื้อดริ้งค์แก้วละ 60 บาท ทางป๋าเกิดจะหักหัวคิวดริ้งค์ละ 10 บาท ซึ่งบางวันโคโยตี้แต่ละคนจะได้ไม่เท่ากัน ตนเองเคยได้ 3-5 ดริ้งค์ แต่บางวันก็ไม่ได้เลย โดยเมียป๋าเกิดจะบ้าง ทอมที่ดูแลบ้างจะเป็นคนรับเงินจากร้านมาจ่ายให้โคโยตี้แต่ละคนเซ็นรับหลังเลิกงานวันต่อวัน

 

“ป๋าเกิด จัดอยู่ในประเภทเซ็กส์จัด เพราะมีเพื่อนโคโยตี้ที่คอยดูแลจัดยาให้ป๋าเกิดทานในแต่ละวันเล่าว่าแกจะทานยาประเภทยาคุมความดัน และมียาบำรุงแบบปลุกเซ็กส์ด้วยทุกวัน ตนเองโดนป๋าเกิดตอนอยู่ที่บ้านจรัญ 35 ส่วนเด็กโคโยตี้คนอื่นบางทีป๋าเกิดก็จะออกปากขอให้ไปช่วยคนของไปส่งที่คอนโดฯ ที่อยู่ใกล้ๆ หน่อยก่อนจะเสร็จแก แกจะออกปากเสนอช่วยเงินทอง มือถือ ใครอยากได้ก็จะยินยอมแกมีความสัมพันธ์ด้วย”

 

นายณัฐวุฒิ พี่ชาย น.ส.บอล หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เท่าที่ทราบป๋าเกิดได้มีสัมพันธ์กับเด็กอายุ 14 จำนวน 2 ราย รายหนึ่งเป็นทอม คนที่ตกเป็นเมีย 1 ใน 4 ของป๋าเกิดที่อยู่กินกัน และอีกรายเป็นโคโยตี้ในคณะ ที่รู้ข่าวมาว่าป๋าเกิด มีความสัมพันธ์ด้วยตอนอายุ 14 ปี

 

ด้าน น.ส.บอล เปิดใจหลังให้ปากคำเสร็จ ยอมรับว่าโดนป๋าเกิด หลอกล่อให้มีความสัมพันธ์ด้วย 2 ครั้ง โดยป๋าเกิด บอกจะซื้อมือถือให้ และ ยังมอบสร้อยคอทองคำ นน. 3 บาท 1 เส้น ให้ตนเอามาสวมใส่ได้สักพักก็เรียกเก็บกลับคืนไปใส่ตู้เซฟ อ้างว่าจะเก็บรักษาไว้ให้ แต่จนบัดนี้ก็ไม่ได้ให้ตนอีกเลย

 

ด้าน พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำเด็กเมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา เชื่อว่ามีการกระทำความผิดจริง ส่วนจะมีผู้เกี่ยวข้องเป็นใครบ้างนั้น ก็ต้องทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายเรียก หมายจับต่อไป สำหรับหลักฐานที่ผู้เสียหายนำมานั้นมีความชัดเจนมาก ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชันไลน์ เฟซบุ๊ก ไอจี ต่าง ๆ ขณะนี้ข้อมูลสมบรูณ์แบบแล้วสามารถออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องได้ แต่ถ้าหากรวบรวมพยานหลักฐานแล้วพบว่ามีโทษสูงก็จะทำการออกหมายจับ ในส่วนข้อหาที่จะเข้าข่ายความผิดได้แก่ ข้อหาการค้ามนุษย์ การหาประโยชน์ทางเพศกับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี อย่างไรก็ตามต้องขอชี้แจงว่าเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี สามารถทำงานเป็นแดนซ์เซอร์ได้แต่ต้องขออนุญาตจากทางผู้ปกครองก่อน และทางผู้ประกอบการก็ระมัดระวัง ควรศึกษาข้อกฎหมายให้ถูกต้องตามกรมแรงงานกำหนด.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน