เมื่อวันที่ 14 ต.ค. นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) รองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวภายหลังการประชุม มส.วาระพิเศษ โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานในที่ประชุมว่า การประชุม มส.วาระพิเศษ ได้หารือแนวทางการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร โดยมส.มีมติว่าที่ประชุมได้รับทราบการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเจริญจิตตภาวนาปลงธรรมสังเวชเป็นเวลา 9 นาที และมีมติให้คณะสงฆ์และวัดทุกวัดทั้งในและต่างประเทศ ดำเนินการดังนี้ 1.จัดโต๊ะหมู่บูชา ประดิษฐานพระบรมรูป พระบรมฉายาลักษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (ภาพสีหรือขาวดำ) พร้อมตั้งเครื่องบูชาทองน้อย ภายในพระอุโบสถหรืออุโบสถ หรือสถานที่ที่สมพระเกียรติภายในวัด

%e0%b8%a1%e0%b8%aa1

2.ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในเวลา 15.52 น. หรือตามเวลาที่เหมาะสมทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป โดยวัดทุกวัดเป็นเจ้าภาพและเชิญชวนประชาชนร่วมถวายเป็นพระราชกุศล 3.ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เมื่อครบกำหนดสัตตมวาร (7 วัน) ปัญญาสมวาร (50 วัน) และสตมวาร (100 วัน) 4.สำหรับสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด เมื่อครบสัตตมวาร (7 วัน) ปัญญาสมวาร (50 วัน) และสตมวาร (100 วัน) ให้จัดปฏิบัติธรรมมีกำหนดคราวละ 7 วัน 5.เจริญจิตตภาวนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลหลังทำวัตรสวดมนต์เย็นทุกวัน และ 6.เชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมบำเพ็ญบุญด้วยการสวดมนต์ เจริญจิตตภาวนา รักษาศีล ฟังธรรม และปฏิบัติธรรม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ตลอดระยะเวลา 1 ปี

นายบุญเชิด กล่าวต่อว่า ที่ประชุม มส.ยังตั้งคณะกรรมการเตรียมพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์เป็นประธาน มีกรรมการ มส.ทุกรูปเป็นกรรมการ มีผู้อำนวยการ พศ.เป็นเลขานุการ ส่วนการเจริญพระพุทธมนต์ทุกวันจันทร์และวันศุกร์นั้นยังคงดำเนินการต่อไป แต่ปรับรูปแบบใหม่ โดยวันจันทร์เป็นการสวดพระพุทธมนต์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ส่วนวันศุกร์เป็นการเจริญพระพุทธมนต์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ได้ออกหนังสือแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ความว่า “ในวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์เอกอัครศาสนูปถัมภก ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐสวรรคต นับเป็นความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของเราทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง พระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ทั้งปวงที่ทรงบำเพ็ญมา เป็นไปเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า

มาบัดนี้ดวงประทีปที่ส่องสว่างกลางใจของเราตลอดกาลได้ดับลงแล้ว ขอให้เราทั้งหลายจงตั้งมั่นอยู่ในความสงบ ดำรงอยู่ในพระบรมราโชวาทที่ตรัสไว้ในวาระนั้นๆ ตั้งแต่ปฐมบรมราชโองการที่ตรัสไว้เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ขอให้เราทั้งหลายจงสำรวมกัลยาณจิต อุทิศกัลยาณผล ที่ได้บำเพ็ญให้เป็นไป น้อมเกล้าฯ ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ขอให้พระภิกษุสามเณรทั่วสังฆมณฑลและในต่างประเทศ พร้อมทั้งประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ได้พร้อมใจกันทำวัตรสวดมนต์และเจริญจิตตภาวนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลทุกวัน ในพระอุโบสถหรือในสถานที่อันเหมาะสมภายในวัด ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม เป็นต้นไป”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน