เมื่อวันที่ 22 ก.ย. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้ราชสกุล องคมนตรี คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระ รัฐ วิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง อาทิ บัญชีจุฬา ปี พ.ศ. 2516/1, กองบิน 4, ห้างหุ้นส่วนจำกัด พีพีดับบลิว อิเลคทริค, บริษัท ดาต้า เจนเนอรัลไทยแลนด์ จำกัด, คณะข้าราชการและประชาชนชาวครบุรี, คณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอครบุรี, เครือนำทอง บริษัท เอไอเอ จำกัด, บริษัท ริวา โคลด์(เอเชีย)จำกัด, วัดสวนป่าบุญฤทธิ์, บริษัท ฮัจยี กรุ๊ป จำกัด, บริษัท บั๊ค โซลูชันส์ จำกัด, ร้านอิศรา, โรงพยาบาลโนนนารายณ์ จังหวัดสุรินทร์, ชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 2 ฯลฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันมีพสกนิกรเดินทางมากราบสักการะจำนวนมาก ท่ามกลางแดดร้อนจัดสลับฝนตกตลอดทั้งวัน โดยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ หลังจากที่ สำนักพระราชวังประกาศเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 30 กันยายน 2560 เป็นวันสุดท้าย เพื่อจัดเตรียมการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

ทั้งนี้สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 21 ก.ย. หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ให้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 02.04 น. ของวันที่ 22 ก.ย. จากกำหนดเดิมเวลา 21.00 น. เนื่องจากยังมีประชาชนเข้าแถวรอกราบสักการะพระบรมศพในมณฑลพิธีสนามหลวงเป็นจำนวนมาก และมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 56,357 คน รวม 323 วัน มี 10,996,550 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 3,748,629.25 บาท รวม 323 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 815,394,035.51 บาท

นางบุศรินทร์ จันทร์โรจน์ อายุ 39 ปี พร้อมด้วยสามี นายศิรพัชร จันทร์โรจน์ อายุ 40 ปี และ ด.ญ. ฐิฏาธร จันทร์โรจน์ อายุ 12 ปี พสนิกร จาก จ.สมุทรปราการ ออกเดินทางมาถึงสนามหลวงตั้งแต่ตี 3 และได้เข้ากราบประมาณ 11 โมง เปิดเผยว่า ครอบครัวได้มากราบพระองค์ท่านอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก อยากมาบอกพระองค์ว่าลูกสาวสอบติดชั้น ม.1 โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ซึ่งเป็นโรงเรียนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก่อสร้างขึ้น และทรงเอาพระทัยใส่ด้านความเจริญเติบโตก้าวหน้าของโรงเรียนมาโดยตลอด โดยตนอยากให้ลูกสาวไทยซึมซับในสิ่งที่พระองค์ทรงทำและนำไปปรับใช้

นางบุศรินทร์ กล่าวด้วยว่า อยากให้ลูกได้เรียนโรงเรียนของพระราชา บอกลูกเสมอว่าพระองค์ทรงประกอบพระราชกรณียกิจมากมายเพื่อปวงชนชาวไทย ให้ได้อยู่ดีมีสุข และสอนให้ลูกรู้จักอดทนและอดออม สำหรับตนนั้น ความรักที่มีต่อพระองค์เป็นความรักเหมือนกับที่เรารักพ่อของเรา สิ่งที่พระองค์ทำครอบครัวเราพร้อมที่จะดำเนินรอยตามตลอดไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน