เตือนม็อบห้ามค้างคืนหน้าสภา หากฝ่าฝืนไม่ว่ากลุ่มไหน จะดำเนินการตามขั้นตอน

เตือนม็อบห้ามค้างคืนหน้าสภา หากฝ่าฝืนไม่ว่ากลุ่มไหน จะดำเนินการตามขั้นตอน เผยกลุ่มราษฎรนัดชุมนุมผ่านโซเซียล ไม่แจ้งขออนุญาตชุมนุม

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 17 พ.ย.2563 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. ฐานะโฆษก บช.น., พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ฐานะรองโฆษก บช.น. และพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ร่วมแถลงข่าวเตรียมความพร้อมรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมเห็นต่างทางการเมือง

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เบื้องต้นขณะนี้มีกลุ่มผู้มาชุมนุมโดยรอบรัฐสภาจำนวน 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มไทยภักดี นายฉัตรชัย ภัทรไชยรบ นำมวลชนเพื่อแสดงจุดยืนการต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และความรู้พี่น้องประชาชนเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และให้ความรู้เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญปี 60 ได้แจ้งการชุมนุมต่อเจ้าพนักงานชุมนุมสาธารณะ จัดการชุมนุมตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น. ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งเตือนให้ผู้ชุมนุมปฏิบัติตามเวลาที่ขอกับเจ้าหน้าที่

ส่วนกลุ่มการเมืองภาคประชาชนแจ้งการชุมนุมต่อเจ้าพนักงานชุมนุมสาธารณะจะชุมนุมตั้งแต่ เวลา 09.00-22.00 น. ของวันที่ 17 และ 18 พ.ย. กลุ่มศูนย์รวมประชาปกป้องสถาบัน นำโดย น.ส.ดุจดาว หลักสุข ขออนุญาตชุมนุมตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. ของวันที่ 17 และ 18 พ.ย. ส่วนกลุ่มราษฎรนัดชุมนุมผ่านทางโซเซียลมีเดียเวลา 15.00 น. วันนี้ให้รวมตัวกันบริเวณแยกเกียกกาย แต่ยังไม่มีการแจ้งขออนุญาตการชุมนุมแต่อย่างใด

“อย่างไรก็ตาม บช.น.มีคำสั่ง 485/2563 เรื่องการประกาศพื้นที่ห้ามชุมนุมระยะ 50 เมตร บริเวณโดยรอบรัฐสภา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 พ.ย. มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น.ที่ผ่านมา ถนนสามเสนหน้ารัฐสภาขาเข้าและขาออก ยาวไปจนถึงบริษัทบุญรอด แยกเกียกกาย ถนนทหาร และถนนประชาราษฎร์บางส่วน อยู่ในเขตระยะ 150 เมตร

โดยทางบช.น.จะตั้งแนวกำลังตำรวจไว้ เป็นการเตือนให้กลุ่มผู้ชุมนุมปฏิบัติตามข้อกฎหมาย ส่วนกรณีที่จะรับประทานหมูกระทะบริเวณดังกล่าว ก็จะบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวบริเวณโดยรอบ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในภายหลัง” รองผบช.น. กล่าว

ส่วนการจัดชุมนุมไม่ว่าทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ตำรวจเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ จะไม่อนุญาตให้ผู้ชุมนุมพักค้างคืนยในพื้นที่การชุมนุมหรือพื้นที่หวงห้ามรอบรัฐสภาเด็ดขาด หากมีกลุ่มใดฝ่าฝืน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ขออนุญาตแล้วหรือไม่ก็ตาม จะแจ้งเตือนตามขั้นตอนเพื่อให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่

ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะชุมนุมทางน้ำ ก็ถือเป็นพื้นที่หวงห้าม จึงขอให้ประชาชนอย่าคิดแต่สนุก เพราะบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยากระแสน้ำค่อนข้างไหลเชี่ยว อาจทำให้เกิดอันตรายได้

ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า การชุมนุมดังกล่าวต้องแยกส่วนคือกลุ่มผู้ชุมนุมต้องแจ้งขออนุญาตชุมนุมตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ แต่สำหรับผู้ชุมนุมที่มาร่วมกับกลุ่มที่ขออนุญาต หากทำกิจกรรมสุ่มเสี่ยงการกระทำผิดกฎหมาย พนักงานสอบสวนดำเนินคดีภายหลัง โดยไม่ใช่ว่าจะมากับกลุ่มที่แจ้งอย่างถูกต้องและจะทำอะไรก็ได้ ฉะนั้นจึงขอเตือนประชาชนที่จะออกมาร่วมการชุมนุม เพราะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้รถฉีดน้ำฉีดใส่การ์ดของกลุ่มราษฎร ทางพล.ต.ต.ปิยะ และพ.ต.อ.กฤษณะ ได้ลงพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ มีรายงานระบุ กรณีการใช้น้ำฉีดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงเป็นน้ำเปล่า ไม่ได้ผสมแก๊สน้ำตาที่ทำให้มีการอาการคันหรือแสบตามผิวหนัง แต่เนื่องจากทางพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.สั่งการไว้ให้มีความจำเป็นต้องใช้รถฉีดน้ำดังกล่าว ไม่ให้ผสมสารเคมีลงไป เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเป็นอันตราย