เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับทราบจากประชาชนชาว จ.ระนอง ว่านายแพทย์เจ้าของคลินิกแพทย์กฤติน ตรวจรักษาโรคทั่วไป เปิดรักษาผู้ป่วยและจ่ายยาฟรีโดยไม่คิดมูลค่า เป็นระยะเวลา 30 วัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบคลินิกแพทย์กฤติน ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง
โดยพบนพ.กฤติน มีวุฒิสม อายุ 31 ปี หรือ หมอติน แพทย์สาขาเวชกรรมโรงพยาบาลระนอง กำลังสาละวนกับการเพาะพันธุ์และตัดตอนกิ่งไม้อยู่หน้าคลินิก หลังเลิกจากงานประจำที่โรงพยาบาล พร้อมเปิดเผยว่า ช่วงเช้าและบ่ายเมื่อถึงเวลาตรวจรักษาคนไข้ สิ่งที่ไม่ลืมจะกระทำทุกครั้ง คือการยกมือไหว้ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ที่หัว ที่ทรงพระราชกรณียกิจซึ่งตนได้แปะไว้บนผนังห้องเหนือศีรษะ และจะจ้องมองพระองค์ท่านด้วยความซาบซึ้งในพระจริยวัตรที่งดงามทุกครั้ง ก่อนจะเริ่มตรวจรักษาผู้ป่วย ด้วยความตั้งใจมุ่งมั่นและใส่ใจกับผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ที่เข้ามาพบและรักษาโรค ด้วยความที่เป็นเพียงแพทย์สาขาเวชกรรม ไม่ได้เป็นแพทย์เฉพาะทางรักษาเฉพาะโรค ก็จะมีเฉพาะผู้ป่วยไข้เล็กน้อยมาให้รักษาอยู่เป็นประจำ
“ในห้วงที่พสกนิกรชาวไทยต่างร่วมกัน ถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ จึงเปิดทำการตรวจรักษาผู้ป่วยและจ่ายยาฟรี โดยไม่คิดมูลค่าเป็นระยะเวลา 30 วัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านตามปฎิธานที่ตั้งใจ เนื่องจากผมมีแรงบันดาลใจจากในหลวงที่ทรงสร้างคุณประโยชน์ต่างๆมากมาย ให้แก่ประชาชนคนไทยทุกคน ผมได้น้อมนำเอาพระราชดำรัสของในหลวงที่ทรงตรัสว่า “ให้ทำความดี” ผมก็เลยคิดว่าผมจะทำความดี โดยตรวจรักษาผู้ป่วยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อร่วมถวายเป็นพระราชกุศล และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน สิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำไว้มีมากมาย ผมอยากจะฝากไปถึงคนไทยทุกคน ให้ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ใครที่สามารถทำความดีด้านไหนได้ ก็ช่วยกันทำ เพื่อให้สังคมเราเดินต่อไปได้และเป็นสังคมที่น่าอยู่ ”นายแพทย์หนุ่ม กล่าว
นพ.กฤติน กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนพยายามทำการเกษตรตามแนวพระราชดำริของพระองค์ท่าน เรื่องความพอเพียงและเรื่องการเกษตรผสมผสาน จะเรียนรู้เพื่อขอเป็นอีกหนึ่งพสกนิกรที่ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท โดยใช้ช่วงเวลาว่างทดลองเพาะพันธุ์กล้าไม้ชนิดต่างๆ โดยแนวคิดจะปลูกพืชแบบผสมผสาน ไม่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว เพราะเวลาล้มจะล้มทั้งสวน
ส่วนพริกเราก็จะปลูกกินเอง เพราะหากว่าเรามีที่แล้วเรายังจะต้องไปซื้อผัก ต้องถือว่าเรามีความล้มเหลวทางด้านการเกษตร หากเรานำแนวทางตามพระราชดำรัสของในหลวงพระองค์ท่าน เราก็จะเข้าใจเลยว่า เราสามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง ส่วนพืชอีกชนิดที่กำลังสนใจ คือหม่อนมัลเบอร์รี่ สายพันธุ์ต่างๆที่ได้ปลูกไว้ในพื้นที่ว่างหลังคลินิก เพราะผลหม่อนมัลเบอรรี่เป็นไม้พุ่มที่นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์น้ำหม่อน แยม หรือไวน์ เสริมรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกหม่อน
อีกทั้งยังพบว่าบำรุงรักษาสุขภาพ ผลหม่อนมีฤทธิ์ลดการตายของเซลล์ประสาทจากโรคอัลไซเมอร์ โรคหลอดเลือดสมองและโรคพิษสุราเรื้อรังได้ และจะต่อยอดให้เกษตรกรในพื้นที่ที่สนใจมาร่วมปลูกกัน พร้อมทั้งแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆของชุมชนต่อไป
