ตำรวจยันเป็นกลาง ดูแล 2 ม็อบนัด 25 พ.ย. ลั่นห้ามชุมนุมในระยะ 150 เมตร ทุกพื้นที่ประวัติศาสตร์ ต้องไม่ให้เกิดความเสียหาย เผยกลุ่มราษฎรยังไม่ขออนุญาตชุมนุม

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 พ.ย.63 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. ในฐานะโฆษกบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. ฐานะรองโฆษกบช.น. และพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แถลงเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมเห็นต่างทางการเมืองจะมาชุมนุมบริเวณรอบสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า มาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุม สำหรับกลุ่มผู้ชุมนุมตามเพจเยาชนปลดแอก นัดรวมตัวเดินทางมาสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ บช.น.จัดเตรียมตำรวจควบคุมฝูงชน ตำรวจจราจรดูแลและชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อเข้าตรวจสอบเหตุในพื้นที่ทั้งหมด 5 สน. ได้แก่ สน.สามเสน สน.ชนะสงคราม สน.สำราญราษฎร์ สน.นางเลิ้ง สน.ดุสิต ส่วนพื้นที่ที่กำหนดไว้เป็นทุกพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ ต้องไม่ให้เกิดความเสียหาย

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ส่วนการข่าวนั้น ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หากเลี่ยงได้จะไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ใกล้กัน โดยแยกให้อยู่คนละฝั่ง ยืนยันตำรวจเป็นคนกลางไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ส่วนกรณีกลุ่มการ์ดราษฎรมาดูแลความปลอดภัยผู้ชุมนุมอาจทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันนั้น ขอให้ทุกคนเคารพกฎหมาย ถ้าอยู่ในกฎหมายจะไม่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นแน่นอน ส่วนการห้ามชุมนุมในระยะ 150 เมตรนั้น เป็นไปตามมาตรา 7 พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ตำรวจจะตั้งแนวไว้และแจ้งเตือนทุกระยะ มีระดับผกก. รองผกก. ประกาศแจ้งเตือน โดยไม่ให้เข้าพื้นที่ที่มีความสำคัญบริเวณดังกล่าว ส่วนการใช้โซเซียลเชิญชวนให้มาร่วมชุมนุม มีความผิดข้อหายุยงปลุกปั่นหรือไม่นั้น ต้องดูข้อความเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่

“ขณะนี้โรงเรียนเซนต์คาเบรียล เซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ ประกาศหยุด 1 วัน รวมถึงหน่วยราชการและห้างร้านต่างๆ ได้ประสานข้อมูลให้ปิดพื้นที่โดยรอบการชุมนุม ในส่วนพื้นที่ห้ามบริเวณใดบ้าง ให้ดูพื้นที่ตำรวจตั้งแนวป้องกันไว้ ไม่อยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาในพื้นที่ตำรวจระบุไว้ ส่วนที่กลุ่มผูเชุมนุมแชร์เอกสารตำรวจจะใช้กำลัง 39 กองร้อย เราจัดกำลังตามสถานการณ์ อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่านั้นก็เป็นไปได้” รองผบช.น.กล่าว

ด้านพล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า ในวันที่ 25 พ.ย.ตามที่ปรากฏทางสื่อโซเชียลมีเดีย ได้ประกาศนัดรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุม บริเวณสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์นั้น เพื่อความสะดวกในการเดินทางของประชาชน จึงขอแจ้งข้อมูลข่าวสารด้านการจราจรประกอบการวางแผนการเดินทาง โดยขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางรอบพื้นที่สำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่เวลา 04.00 น. ของวันที่ 25 พ.ย.เป็นต้นไป จนเสร็จสิ้นการชุมนุมและขอให้ไปใช้เส้นทางที่แนะนำรอบพื้นที่การชุมนุมฯ ดังนี้

เส้นทางที่แนะนำให้ประชาชนไปใช้เพื่อหลีกเลี่ยผลกระทบด้านการจราจร 4 ทิศทาง ได้แก่ 1.เส้นทางแนะนำด้านทิศเหนือ ตั้งแต่ถนนสุโขทัย – สะพานกรุงธนบุรี (ซังฮี้) ถนนนครไชยศรี และถนนเศรษฐศิริ – ถนนอำนวยสงคราม 2.เส้นทางแนะนำด้านทิศตะวันออก ตั้งถนนพระราม 6 ถนนกำแพงเพชร 5 และ ทางพิเศษศรีรัช 3.เส้นทางแนะนำด้านทิศใต้ ตั้งแต่ถนนหลานหลวง – ถนนราชดำเนินกลาง – สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนหลานหลวง – ถนนจักรพรรดิพงษ์ – ถนนวิสุทธิกษัตริย์ – สะพานพระราม 8 และถนนบำรุงเมือง – ถนนพระราม 1 4.เส้นทางแนะนำด้านทิศตะวันตก ตั้งแต่ถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนบรมราชชนนี และถนนอรุณอัมรินทร์

“ส่วนเส้นทางที่แนะนำให้ประชาชนไปใช้ กรณีเดินทางโดยใช้ทางด่วน ได้แก่ 1.จุดที่ปิดการจราจร (ทางด่วนยมราช) จุดเดียว 2.เส้นทางแนะนำตั้งแต่ลงด่วนพระราม 6 – ถนนพระราม 6 – ขวาแยกโรงกรองน้ำ – ถนนนครไชยศรี – ถนนสุโขทัย – สะพานชังอี้ รวมถึงกรณีลงทางด่วนจารุเมือง ใช้เส้นทางถนนพระราม 4 – ถนนเยาวราช – ซ้ายถนนจักรวรรดิ์ – สะพานพระปกเกล้า และหากลงทางด่วนจารุเมืองแล้วใช้เส้นทางถนนพระราม 4 – ถนนเยาวราช – ขวาถนนจักรวรรดิ – แยกหลานหลวง – ตรงไปสะพานพระราม 8 หรือเลี้ยวซ้ายไปสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า นอกจากนี้ตำรวจนครบาลตะจัดรถชัตเตอร์บัส อาทิ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วงเวียนใหญ่ ตำรวจจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบในพื้นที่โดยรอบ อย่างหน่วยงานราชการที่จะต้องการขึ้นรถออกจากพื้นที่บริเวณที่มีการชุมนุมดังกล่า” รองผบช.น.กล่าว

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ผู้ชุมนุมยังไม่ได้แจ้งการชุมนุมกับตำรวจ การชุมนุมเป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต้องแจ้งก่อน 24 ชั่วโมง ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ห้ามใช้ป้ายสร้างความเกลียดชังดูหมิ่นให้เกิดความแตกแยก ตำรวจมุ่งยึดแนวทางปฏิบัติตามอำนาจที่กฎหมายกำหนดไว้การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทั้งเรื่องการบังคับใช้กฎหมายและดูแลจราจรเป็นไปตามหลักสากลไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการจัดกำลังตำรวจ เพื่อมาสลายการชุมนุมนั้นไม่ใช่ การจัดแบริเออร์ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ใช่แค่พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ แต่รวมกฎหมายจำนวนอื่นด้วย

“นับแต่ช่วงการเดือนก.ค.ปีนี้ มีการชุมนุม 20 จังหวัดทั่วประเทศตำรวจดำเนินคดีทุกกลุ่ม เราดำเนินคดีทั่งไปประเทศ 170 คดี กทม. 100 คดี ต่างจังหวัด 70 คดี หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายก็จะถูกดำเนินคดีตามหลัง ตามดุลยพินิจพนักงานสอบสวนพื้นที่นั้นๆ ส่วนน้ำใช้ฉีดใส่พื้นที่ชุมนุมนั้น ส่วนแรกสารเคมีที่บรรจุอยู่ ส่วนสองสีที่ใช้ไม่ได้เป็นประเด็นอะไร ทั้งสีม่วงสีฟ้า เป็นสีย้อมทั่วไป ส่วนผสมในน้ำเป็นแก๊สน้ำตาชนิดเหลว มีคุณสมบัติระคายเคืองสายตา การหายใจเล็กน้อย แต่ไม่มีอันตรายต่อชีวิต เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาพื้นที่หวงห้าม ส่วนมีผู้รับผลกระทบจากน้ำที่ฉีดจากรถ เรานำบทเรียนมาปรับปรุง มีการฝึกซ้อมตามระเบียบมีขั้นตอนการดำเนินการ ส่วนกรณีที่ร้องทุกข์ตามม.157 พนักงานสอบสวนจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ต้องฟ้องร้องอยู่แล้ว”รองโฆษกตร.กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน