ตร.ลั่นเอาผิดม็อบราบ 11 เทสีหน้ากรม-ทุบรถตำรวจพังเละ สั่งเช็กแกนนำปราศรัย ชี้ชุมนุมโดยผิดกฎหมาย ไม่แจ้งขออนุญาต เบื้องต้น 2 ข้อหา

เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2563 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. ในฐานะโฆษกบช.น. พร้อมด้วยพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แถลงข่าวกรณีการชุมนุมของกลุ่มราษฎร

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ผู้ชุมนุมประกาศนัดหมายผ่านเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ชุมนุมบริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 1 เวลา 16.00 น. ต่อมาเวลา 10.00 น. ได้เปลี่ยนสถานที่จากกรมทหารราบที่ 1 เป็นกรมทหารราบที่ 11 โดยนัดหมายที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส วัดพระศรีมหาธาตุ เวลา 15.00 น.

ต่อมาเวลา 14.00 น. มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนเดินทางมาบริเวณหน้าวัดพระศรีมหาธาตุ จากนั้นเวลา 16.00 น. เคลื่อนตัวไปยังหน้ากรมทหารราบที่ 11 ผกก.สน.บางเขนจึงแจ้งผู้ชุมนุมเนื่องจากการชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้แจ้งการชุมนุมตามกฎหมาย โดยแจ้งให้ยุติการชุมนุมเวลา 18.00 น. แต่ผู้ชุมนุมยังฝ่าฝืนชุมนุมต่อ ไม่ยอมเดินทางกลับจนถึงเวลา 22.00 น.

หลังเลิกชุมนุมตรวจสอบพบทรัพย์สินของทางราชการเสียหายหลายอย่าง เช่น รถตู้ตำรวจมีการพ่นสี ปล่อยลมยาง ทุบทำลายกระจก รวมกว่า 20 คัน บริเวณรั้วสวนหย่อมของกรุงเทพมหานครเสียหาย ผู้ชุมนุมนำสีมาสาดใส่ เทราดบนพื้นหน้ากรมทหารราบที่ 11 ตำรวจได้ประสานหน่วยที่เกี่ยวข้องให้สำรวจความเสียหายในแต่ละส่วนและให้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี

โดยภาพรวมการชุมนุม พบเข้าข่ายความผิดอย่างน้อย 2 ข้อหา คือ จัดการชุมนุมโดยผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และทำให้เสียทรัพย์ซึ่งทรัพย์สินของทางราชการ ส่วนการปราศรัยของแกนนำอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า นอกจากนี้ตำรวจยังจับกุมนายวัชระ ศรีงาม หรือเจี๊ยบ อายุ 50 ปี หนึ่งในผู้ชุมนุมที่ทุบทำลาย และปล่อยลมยางรถตู้ตำรวจ สน.สายไหม ที่จอดอยู่ตรงป้ายรถประจำทางใกล้กับจุดการชุมนุม ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีเรียบร้อย

สำหรับภาพรวมการดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งแต่มีการจัดการชุมนุมจนถึงปัจจุบัน มีการดำเนินคดีทั่วประเทศแล้วกว่า 170 คดี เฉพาะใน กทม. 110 คดี ส่งสำนวนให้อัยการแล้ว 21 คดี เกือบทั้งหมดอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง นอกจากนี้ยังมีคดีทีรอส่งอัยการอีก 4 คดี และคดีอยู่ระหว่างรอสอบสวนอีก 85 คดี โดยช่วงบ่ายวันนี้ประกาศรวมตัวชุมนุมที่ สน.ชนะสงคราม และสน.ลุมพินี เพื่อให้กำลังใจแกนนำที่ถูกดำเนินคดี ซึ่งยังไม่ได้แจ้งจัดการชุมนุม

ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า สำหรับความพร้อมดูแลการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นช่วงบ่ายวันนี้ เบื้องต้นทราบว่าจะไปให้กำลังใจกลุ่มคนที่ถูกออกหมายเรียกบริเวณ สน.ชนะสงคราม และสน.ลุมพินี อีกส่วนเป็นการประกาศรวมตัวที่บริเวณสวนลุมพินี ซึ่งจากรายงานของสถานีตำรวจท้องที่ ยังไม่มีการแจ้งการชุมนุม

ทั้งนี้ การแจ้งการชุมนุมนั้น เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายในเบื้องต้นตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และเมื่อมีการแจ้งแล้วก็จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายในส่วนอื่นด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน