เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีหุ้นไทย ปิดตลาดที่ระดับ 1,706.95 จุด บวก 14.73 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นที่ 81,464.26 ล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 1,836.21 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 392.45 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 2,313.55 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนในประเทศ ขายสุทธิ 4,542.21 ล้านบาท ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยปิดปรับตัวเหนือระดับ 1,700 จุดได้สำเร็จ ภายหลังจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาประกาศวันเลือกตั้งชัดเจน โดยดัชนีหุ้นที่ปิดเกิน 1,700 จุด นับเป็นสถิติสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี

นายมงคล พ่วงเภตรา นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าดัชนีหุ้นไทยในช่วงเช้าขยับลบเล็กน้อยจากแรงขายทำกำไร ก่อนที่ในช่วงบ่ายจะพุ่งแรงกว่า 10 จุด จนทะลุแนวต้านสำคัญ 1,700 จุดได้สำเร็จ ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีระบุถึงการเลือกตั้งในเดือน พ.ย. 2561 แม้จะดีเลย์ไปจากเดิม 2 เดือน แต่ด้วยความชัดเจนเรื่องกรอบแวลา จึงเป็นปัจจัยหลักปลดล็อคให้ดัชนีฯ ทะลุ 1,700 จุด

ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องติดตามต่อไป คือ แรงส่งครั้งนี้จะต่อเนื่องหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาดัชนีฯ ปรับขึ้นมาร้อยกว่าจุด โมเมนตัมโดยรวมดูดี แต่ยังไม่สามารถทะลุ 1700 จุด โดยดัชนีฯ มีท่าทีพร้อมจะปรับขึ้น เพียงแต่รอปัจจัยมากระตุ้นเท่านั้น

สำหรับพรุ่งนี้ คาดหุ้นไทยมีโอกาสบวกต่อ แต่ยังจะเห็นการสลับหุ้นเก็งกำไร ที่กำลังเข้าใกล้ช่วงประกาศผลการดำเนินงานใน Q3/60 ซึ่งภาพรวมดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดย concensus คาดว่าโดยรวมจะดีขึ้น 3% จาก Q2/60 ที่เป็นไตรมาสต่ำสุดของปี และจะโดดเด่นในหุ้นกลุ่มปิโตรฯ และกลุ่มโรงกลั่น

ด้านกลยุทธ์ เน้นเก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปลดล็อคทางการเมือง เริ่มจากหุ้นขนาดใหญ่ที่มักจะเป็นเป้าหมายของกระแสเงินทุน หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ ทั้งรับเหมาก่อสร้าง และรับเหมาฯ และกลุ่มนิคมอุตฯ ที่การลงทุนอิงกับการเมือง รวมถึงหุ้นที่คาดว่างบ Q3/60 จะออกมาดี พร้อมกับประเมินแนวรับ 1,700 จุด แนวต้าน 1,715 จุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน