จากกรณีคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เอาผิดทางวินัย พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผบก.น.5 เกี่ยวข้องพาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีไม่ไปฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าว หลังคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงมีมติให้มีความผิดวินัยร้ายแรง ตามม.78 (1) ประกอบม.79 (6) ตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 หลังพบมีความผิดด้วยการใช้รถผิดกฎหมาย พาอดีตนายกฯหลบหนีคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวนั้น
ความคืบหน้า พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผบช.น. ฐานะหัวหน้าคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เปิดเผยว่า การประชุมครั้งที่ 3 ช่วงบ่ายวันนี้ คณะกรรมการสืบสวนคดีเท็จจริงมีมติสรุปชี้มูลความผิด พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ผิดตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ม.78 (1) ประกอบ ม.79 (6) หมายความว่าในประเด็นแรกกรณีใช้รถด้วยมิชอบด้วยกฎหมาย
กรณีนี้พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ผิดวินัยไม่ร้ายแรงตามม.78 (1) กรณีที่ 2 พาอดีตนายกฯไปส่งที่ชายแดน คณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ผิดวินัยร้ายแรง เพราะทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรงผิดตามม.79 (6) โดยจะสรุปสำนวนเสนอให้พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น. แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ทางผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิ์จะอุทธรณ์ ภายหลัง พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น. ตั้งแต่งคณะกรรมการสอบสวนวินัยแล้วเสร็จ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จะพิจารณาตั้งคณะกรรมการอีกครั้ง ส่วนของการใช้รถสน.ปทุมวัน ดำเนินการสอบสวนอยู่ รวมถึงกรณีของอดีตนายกฯ นั้น จากการตรวจสอบล่าสุดขณะนี้ดีเอ็นเอไม่ตรงกับพยานหลักฐาน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.สั่งการให้ไล่ติดตามเร่งหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมต่อไป
