เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 17 ต.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พล.ต.ท. ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ รรท.ที่ปรึกษาพิเศษตร. ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วยผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รรท.ผบช.ภ.3 พร้อมชุดสืบสวน บช.ภ.3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงผลการจับกุม นายทินกร หรือโอเล่ ค่อมสิงห์ อายุ 30 ปี ชาว ต.พระทาย อ.ท่าอุเทน จว.นครพนม พร้อมของกลางยาไอซ์กว่า 508 กิโลกรัม มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท

สำหรับการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา สภ.สีดา จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจจุดสกัด และตรวจพบรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า หลังคาแครี่บอย แสดงอาการมีพิรุธโดยไม่ยอมเข้าจุดตรวจและกลับรถเพื่อหลบหนี ก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตาม แต่เนื่องจากเป็นช่วงเวลากลางคืนจึงทำให้ไม่สามารถติดตามจนพบได้ ซึ่งทางสภ.สีดา ได้ประสานไปยัง สภ.ต่างๆ พื้นที่ใกล้เคียง ร่วมติดตามรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าว และให้ประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนเพื่อช่วยในการแจ้งเบาะแส

ต่อมาในเวลา 12.50 น. ในวันที่ 16 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวใหญ่ ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบรถที่มีลักษณะเดียวกันกับที่ได้แจ้งข้อมูลไว้ โดยจอดทิ้งในบริเวณข้างวัดหนองเซียงโข่ ต.กุดจอก อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา อีกทั้งให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าในบริเวณใกล้เคียงพบชายไทยไม่ทราบชื่ออีกจำนวน 2 คน เดินอยู่ลักษณะที่มีพิรุธ ต่อมาสภ.บัวใหญ่ จึงสนธิกำลังตรวจค้นรถกระบะคันดังกล่าว พบยาเสพติด ประเภทสารไอซ์ ในรูปแบบแท่งขนาด 1 กิโลกรัม จำนวน 508 แท่ง บรรจุอยู่ในกระสอบถุงปุ๋ย จำนวน 11 ถุงปุ๋ย ซุกซ่อนอยู่บริเวณแคปและในกระบะหลังคาแครี่บอย จึงให้วิทยาการจังหวัดเก็บลายพิมพ์นิ้วมือ ตัวอย่างอีเอ็นเอไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาชุดสืบสวนลงพื้นที่ในบริเวณใกล้เคียงพบชายต้องสงสัย ทราบชื่อภายหลังว่านายทินกร หรือ โอเล่ ค่อมสิงห์ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 74 ม.2 ต.พระทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ที่บริเวณสถานีรถไฟบัวใหญ่

จากการตรวจสอบหลักฐานกล้องวงจรปิด และสอบสวนผู้ต้องสงสัยจึงได้รับสารภาพว่า ร่วมกับนายบี (ไม่ทราบนามสกุล) รับจ้างจากนายทุนยาเสพติดให้ขับรถบรรทุกยาเสพติดดังกล่าวจากจ.นครพนม ยังไม่รู้จุดหมายปลายทาง เนื่องจากนายทุนยาเสพติดจะสั่งการว่าให้ขับรถไปเส้นทางใดเป็นระยะๆ โดยใช้เส้นทางนครพนม-สกลนคร-กาฬสินธุ์-มหาสารคาม-บ้านไผ่-เมืองพล-สีดา ซึ่งในเบื้องต้นได้รับค่าจ้างในการขนส่งครั้งนี้จำนวน 20,000 บาท ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายบี และนายทุนยาเสพติดที่หลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป โดยของกลางดังกล่าวหากนำไปจำหน่ายให้กับผู้เสพจะมีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท

ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า คนร้ายมักเป็นกลุ่มเดิมๆ เช่นกลุ่มหว้าใต้ กลุ่มหว้าเหนือ มีประมาณ 5-7 กลุ่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สกัดกั้นการลำเลียงมาโดยตลอด แต่คนร้ายก็พยายามเบี่ยงเส้นทางเลี่ยงการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะการขนยาเสพติดที่มีจำนวนมากๆ ก็จะมีจุดอ่อนและจุดแข็ง สำคัญที่สุดคือแพ็คเกจที่ห่อยาเสพติดที่ใช้ตบตาเจ้าหน้าที่ สำหรับปัญหายาเสพติด ตนนำเรียนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ทราบเป็นระยะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็พยายามหามาตรการเพื่อเฝ้าระวังมาโดยตลอด

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า เดิมทีการลำเลียงยาเสพติดมักพบในพื้นที่ภาคเหนือ แต่หลังจากที่ผบ.ตร.มีคำสั่งปรับแผนเพิ่มมาตรการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนภาคเหนือ ทำให้คนร้ายเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงอ้อมผ่านมาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือแทน โดยข้ามมาจากประเทศลาว แต่ประเทศลาวไม่ใช่แหล่งผลิต ซึ่งคนร้ายมีปลายทางลำเลียงออกไปทางทะเลภาคใต้ ผ่านไปยังประเทศมาเลเซีย และกระจายไปสู่ประเทศอื่นๆ อาทิ ออสเตรเลีย ไต้หวัน เป็นต้น เมื่อยาเสพติดถูกลำเลียงไปประเทศที่สามแล้ว จะทำให้มีมูลค่าเพิ่มถึงหมื่นล้านบาท

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน