ปูนบำเหน็จ ‘ผู้กองใจเด็ด’ พลีชีพเหตุคนร้ายขับรถพุ่งชน ขณะล้อมจับยาเสพติด ผบ.ตร.เสียใจกับครอบครัว ลั่นจะไม่ปล่อยให้ลูกน้องตายฟรี
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อวันที่ 19 ม.ค. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีได้รับรายงานจากพล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. และพล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. ว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา ชุดสืบสวน กก.3 บก.ปส.2 (อุดรธานี) ออกสืบสวนการลักลอบขนลำเลียงยาเสพติดอาศัยช่วงโควิด-19 ในเขตพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม เพื่อนำส่งให้กับลูกค้าพื้นที่ตอนในและกทม.
โดยกลุ่มนักค้ายาเสพติดใช้รถยนต์ ทะเบียน กน5772 สกลนคร ในการลำเลียงยาเสพติด ขับรถยนต์ตามเส้นทางจังหวัดกาฬสินธุ์ มุ่งหน้าไปทางจังหวัดขอนแก่น ขณะตำรวจเข้าสกัดเพื่อทำการตรวจค้น ที่บริเวณถนนลูกรัง ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ขับรถยนต์คันดังกล่าวฝ่าวงล้อม และพุ่งชน ร.ต.อ.วิรัตน์ชัย น้อมระวี รอง สว.กก.3 บก.ปส.2 ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่โรงพยาบาลขอนแก่นราม อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. สามารถติดตามจับกุม นายสุภาพ ติธรรม ผู้ก่อเหตุ ได้ที่อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แสดงความเสียใจกับครอบครัวของ ร.ต.อ.วิรัตน์ชัย น้อมระวี ที่เสียชีวิต และกล่าวสั้นๆ ว่า “ผมจะไม่ปล่อยให้ลูกน้องตายฟรี” และสั่งการให้ต้นสังกัด บช.ปส. เร่งประสานงานเรื่องสิทธิประโยชน์เบื้องต้น ให้กับครอบครัวของตำรวจผู้เสียชีวิต กำชับให้ขยายผลการจับกุมทั้งขบวนการอย่างเด็ดขาด
ด้าน พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ปส.2 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทาง พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวนายสุภาพ ติธรรม ซึ่งเป็นผู้ขับขี่มาดำเนินคดี กระทั่งสามารถติดตามจับกุมได้
ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางตนในฐานะผู้บังคับบัญชาขอแสดงความเสียใจกับทางครอบครัว ซึ่งในส่วนของ ร.ต.อ.วิรัตน์ชัย ถือว่าเป็นข้าราชการตำรวจที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง เวลาออกปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับคดียาเสพติดจะกัดไม่ปล่อย อีกทั้งมีน้ำใจกับเพื่อนร่วมงาน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสวัสดิการทางต้นสังกัดจะดูแลอย่างเต็มที่ เพราะเป็นการเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ และปูนบำเหน็จชั้นยศตามสิทธิ นอกจากนี้ ยังมีเงินช่วยเหลือจากทางต้นสังกัดและเงินช่วยเหลือจากผู้บังคับบัญชา ตลอดจนในส่วนของทางบุตรธิดาจะได้รับสิทธิเข้ารับราชการตำรวจต่อไป
ภาพบางส่วนจาก โปลิศไทยแลนด์ – Police Thailand News
