อย.จับมือกสทช.ลุยฟันรายการทีวีโฆษณาถั่งเช่าเกินจริง ปรับทีวีดาวเทียมไปแล้ว 3 รายๆ ละ 5 แสนบาท ส่วนพิธีกร-พรีเซนเตอร์ ก็ไม่รอด
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อวันที่ 21 ม.ค.64 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารถั่งเช่าซึ่งมีบุคคลในแวดวงบันเทิงเป็นพรีเซนเตอร์ว่า
ขณะนี้ อย.กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งผลิตภัณฑ์ลักษณะนี้ อย.เคยดำเนินคดีไปแล้วถึง 58 ราย บางรายยังไม่เข็ดหลาบ ก็กลับมาทำใหม่ ซึ่งอย.ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เอาผิดกับสถานีโทรทัศน์ที่นำเสนอโฆษณาเหล่านี้
ภญ.สุภัทรา กล่าวต่อว่า การรวบรวมพยานหลักฐานต้องละเอียดรอบคอบ ต้องตรวจสอบรายละเอียดการออกอากาศทุกอย่าง โดยอย.จะเป็นผู้ปรับเอง หากมีโทษถึงขั้นจำคุก จะต้องมอบหมายให้ บก.ปคบ.จัดการและแยกความผิดเป็นรายไป
ด้าน พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ รอง ผบก.ปคบ.กล่าวว่า ขณะนี้ อย.ยังไม่ได้ส่งเรื่องมาให้พนักงานสอบสวน บก.ปคบ. มีเพียงคดีเก่าที่มีความผิดในลักษณะเดียวกันนี้ เมื่อ 2-3 ปีก่อน ที่บุคคลแวดวงบันเทิง ออกมาโฆษณาสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ถั่งเช่า แล้วบก.ปคบ.แจ้งข้อกล่าวหา จนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายไปแล้ว
“เรื่องล่าสุดหาก อย.ส่งเรื่องมาแล้วนั้น ทางตำรวจบก.ปคบ.ยืนยัน จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างจริงจังเช่นเดิม โดยจะรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย” พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา กสทช.ตรวจพบการจัดฉากโฆษณาเกินจริง กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง โดยผู้โฆษณารายใหม่ เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารถั่งเช่า ซึ่งมีบุคคลแวดวงบันเทิงเป็นพรีเซนเตอร์ อ้างว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสามารถรักษาได้สารพัดโรค และมีการแสดงเป็นผู้ป่วยอาการหนัก สภาพร่างกายทรุดโทรม แต่เมื่อรับประทานผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว กลับหายจากอาการป่วยได้อย่างมหัศจรรย์ ซึ่งไม่เป็นความจริง ถือเป็นการประกอบกิจการโดยขาดจิตสำนึก ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม และแม้จะได้รับคำสั่งเตือนให้ระงับโฆษณาไปแล้ว ก็ยังไม่ปฏิบัติตาม
กสทช. จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ลงโทษด้วยการปรับสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเป็นเงิน 5 แสนบาทไปแล้ว 1 ราย และมีโทรทัศน์ดาวเทียมอีก 2 ราย ที่อย. วินิจฉัยแล้วว่า เป็นโฆษณาที่ผิดกฎหมาย
โดยคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ เตรียมเสนอบอร์ดกสทช. เพื่อลงโทษปรับอีกรายละ 5 แสนบาท พร้อมส่งเรื่องไปยัง อย. เพื่อให้ดำเนินคดีกับพิธีกร พรีเซนเตอร์ และ พิจารณาเพิกถอนทะเบียนตำรับอาหารด้วย
โดยกฎหมายกำหนดโทษปรับสูงสุดไว้ที่ไม่เกิน 5 ล้านบาท และปรับรายวันอีกวันละไม่เกิน 1 แสนบาท ทั้งนี้ผู้กระทำผิด นอกจากจะถูกปรับแล้ว ยังจะถูกบันทึกประวัติ เพื่อลดทอนอายุใบอนุญาต เช่น ใบอนุญาตสถานีวิทยุ ที่จะถูกลดลงเหลือเพียง 6 เดือนเมื่อมาขอต่อใบอนุญาต ซึ่งขณะนี้มีสถานีวิทยุที่ถูกลดอายุใบอนุญาตไปแล้ว 150 ราย
นอกจากนี้ ยังมีโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเกี่ยวกับดวงตา ที่ถูกลงโทษปรับไป 6 ราย รายละ 5 หมื่นบาท และอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อเสนอปรับอีก 3 ราย ขณะที่ผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าที่ อย.อนุญาต มี 2 กลุ่ม คือ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร(ยาแผนโบราณ) และผลิตภัณฑ์อาหารที่มีถั่งเช่าเป็นส่วนประกอบ เพื่อบำรุงร่างกายทั่วไป เสริมจากการรับประทานอาหารตามปกติ
ดังนั้นการโฆษณาว่าผลิตภัณฑ์จากถั่งเช่า สามารถรักษาโรคได้ จึงเป็นการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต และโฆษณาโอ้อวดเกินจริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
