ดีเอสไอ นำกำลังบุกจับเครือข่าย นายหน้า จัดหาสาวไทย หลอกไปทำงานนวดที่ดูไบทำสัญญากู้เงิน 60,000 บาท ก่อนนำส่งซ่อง บังคับค้ากาม
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
วันที่ 23 ม.ค.2564 พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มอบหมายให้ พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ ที่กำกับดูแลกองคดีการค้ามนุษย์ ดำเนินการสอบสวนกรณีหญิงไทยถูกหลอกลวงไปบังคับค้าประเวณี ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (คดีพิเศษที่ 72/2562)
โดยได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ส่วนคดีการค้ามนุษย์ 3 กองคดีการค้ามนุษย์ ดำเนินการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน จนนำไปสู่การขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลอาญา 3 ราย ที่เป็นกลุ่มนายหน้า ผู้ชักชวนของขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติและหลอกลวงคนไทยไปค้าประเวณีที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นั้น
พ.ต.ท.สุภัทธ์ เปิดเผยว่า คดีพิเศษดังกล่าว สืบเนื่องจากมูลนิธิพิทักษ์สตรี ได้รับแจ้งว่ามีหญิงไทย 6 ราย เป็นเหยื่อ ถูกกลุ่มนายหน้าชาวไทยหลอกชักชวนไปทำงานนวด ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยอ้างว่าเป็นงานนวดที่มีรายได้ดี ไม่มีการบังคับให้ทำงานมีเพศสัมพันธ์กับลูกค้าแต่อย่างใด เป็นการชักจูงใจให้หลงเชื่อ ซึ่งต่อมาเมื่อหญิงไทยทั้ง 6 ราย เดินทางไปถึงนครดูไบ ได้ถูกเจ้าของร้านชาวจีนยึดหนังสือเดินทางของทุกคนไว้ และพาไปทำงานที่ร้านนวด (แอบแฝง) แห่งหนึ่ง
- ราชกิจจาฯ ประกาศค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข7
- ราคาทองวันนี้ 23 ม.ค.64 ปรับลง แรงรับเช้าวันเสาร์ เมื่อเทียบกับราคาปิด
- ศบค.เผยตัวเลข ผู้ป่วยโควิดรายใหม่ สลดชายสูงอายุ จาก จ.พิจิตร ติดเชื้อเสียชีวิต
พ.ต.ท.สุภัทธ์ กล่าวต่อว่า และบางรายถูกนำไปทำงานที่ซ่องโสเภณี ในกรุงอาบูดาบี มีการบีบบังคับให้ต้องมีเพศสัมพันธ์กับลูกค้า หากไม่ยินยอมก็จะไม่มีรายได้ที่จะนำมาใช้หนี้ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นเงินประมาณ 62,700 บาท (ที่ระบุในสัญญายืมเงิน) ซึ่งเหยื่อเล่าว่า ก่อนเดินทางไปทำงาน จะมีนายหน้าชาวไทยนำสัญญาเงินกู้ให้ลงลายมือชื่อเพื่อรับสภาพหนี้ ในสัญญามีเนื้อหาว่า หากไม่ชำระหนี้เงินกู้จะถูกดำเนินคดี
ดีเอสไอ นำกำลังเจ้าหน้าที่บุกจับ นายหน้า จัดหาสาวไทย หลอกไปทำงานนวดที่ดูไบทำสัญญากู้เงิน 60,000 บาท ก่อนนำส่งซ่อง บังคับค้ากาม
พ.ต.ท.สุภัทธ์ กล่าวอีกว่า ต่อมาเหยื่อได้หลบหนีออกจากสถานค้าบริการ และได้เข้าขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอาบูดาบี เพื่อส่งกลับประเทศไทย และเข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิ พิทักษ์สตรี โดยมูลนิธิฯ ได้พามาร้องเรียนที่ดีเอสไอ เพื่อดำเนินการนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษ
รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ดีเอสไอได้ติดตามสืบสวนกรณีดังกล่าวมาโดยตลอด จนเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญา 3 ราย โดย 1 รายที่ จ.ชลบุรี และอีก 2 รายในจ.อุบลราชธานี ที่เป็นเครือข่ายนายหน้าในขบวนการจัดหาหญิงไทยไปบังคับค้าประเวณี
พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ซึ่งดีเอสไอได้ส่งตัวผู้ต้องหาไปที่ศาลอาญา ในวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
