เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นางแหลม อุ่นอ่อน อายุ 60 ปี แม่ของน.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี หรือผอ.อ้อย ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ ที่หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า วันนี้ญาติพี่น้องของตนประมาณ 30 คน เดินทางไปที่ป่าดอนเจ้าปู่ บ่อหินบ้านโนนสูง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี และรอบบริเวณป่าเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย เพื่อหาตัวน.ส.จุฑาภรณ์ โดยมีพระธุดงค์ 3 รูป จากจ.กาฬสินธุ์ มาช่วยค้นหาด้วย

นางแหลม กล่าวว่า พระธุดงค์ได้ประกอบพิธีทางศาสนาและสวดมนต์เปิดป่าเพื่อขอให้พบร่างของน.ส.จุฑาภรณ์ โดยนายวิทยา เกษแก้ว อายุ 37 ปี สามีน.ส.จุฑาภรณ์ ซึ่งทำงานเป็นต้นหนเรือเดินทะเล นำญาติพี่น้องออกค้นหาร่างของน.ส.จุฑาภรณ์ หากพบบริเวณที่สงสัยว่าจะเป็นหลุมฝังร่างก็จะใช้ไม้ปลายแหลมแทงลงไปให้ลึกที่สุด จากนั้นจะนำปลายไม้ที่แทงลงไปมาดมดู หากพบว่ามีกลิ่นเหม็นหรือมีกลิ่นที่สงสัยว่าจะเป็นกลิ่นเหม็นจากร่างของคนหรือสัตว์ ก็จะใช้จอบขุดบริเวณดังกล่าว เพื่อพิสูจน์ให้รู้ข้อเท็จจริงทันที แต่ว่าจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เบาะแสเกี่ยวกับน.ส.จุฑาภรณ์แต่อย่างใด

นางแหลม กล่าวต่อว่า มั่นใจว่าน.ส.จุฑาภรณ์ต้องถูกคนร้ายซุกซ่อนร่างอยู่ที่บริเวณป่าเขตภูจองนายอย เนื่องจากสัญญาณโทรศัพท์ของน.ส.จุฑาภรณ์ และร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง ไปสิ้นสุดอยู่ที่บริเวณภูจองนายอย และบริเวณช่องอานม้า ก่อนสัญญาณโทรศัพท์จะหายไป ตนกับญาติไม่รู้ว่าจะไปหาร่างของน.ส.จุฑาภรณ์ที่ไหนอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากตามหาที่ไหนก็ไม่พบร่องรอยของลูกสาว

“แม้ว่าจะสิ้นเงินค่าใช้จ่ายในการตามหาไปแล้วร่วม 1,000,000 บาท แต่พวกตนก็ไม่ยอมท้ออย่างเด็ดขาด ไปกู้ยืมเงินจากญาติพี่น้องมาเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเงินทุกวัน ตนจะตามหาร่างลูกสาวที่ตนรักมากต่อไป จนกว่าชีวิตนี้จะหาไม่” แม่ของน.ส.จุฑาภรณ์ กล่าว

นางแหลม กล่าวอีกว่า ส่วนเศษกระดูกที่พบว่าถูกเผาอยู่ในค่ายกรมทหารราบที่ 6 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ใกล้บ้านพักของร.อ.ศุภชัยนั้น ตนทราบจากพนักงานสอบสวนว่า ได้ส่งเศษกระดูกไปให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจพิสูจน์ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบผลการตรวจว่าเป็นกระดูกของคนหรือสัตว์ คนที่ทำร้ายน.ส.จุฑาภรณ์ต้องมีจิตใจโหดเหี้ยมอย่างมาก เพราะทำร้ายได้แม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็กๆ ไม่มีทางสู้








Advertisement

นางแหลม กล่าวด้วยว่า ตนเชื่อกฎแห่งกรรมว่าคนที่ทำร้ายลูกสาวตน ต้องได้รับผลกรรมที่กระทำในชาตินี้แน่นอน และเชื่อว่าคนที่เป็นฆาตกรทำร้ายน.ส.จุฑาภรณ์ไม่เสียชีวิตดีแน่ ซึ่งขณะนี้ได้ขอระดมทุนในการตามหาน.ส.จุฑาภรณ์แล้ว เพื่อไว้เป็นเงินทุนเป็นค่าใช้จ่ายในการติดตามหาตัวน.ส.จุฑาภรณ์ ซึ่งมีผู้ใจบุญบริจาคเงินเข้ามาบ้างแล้ว ตนขอกราบขอบพระคุณผู้ใจบุญทั่วประเทศด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน