ผบช.น.โต้ใช้ความรุนแรง-แก๊สน้ำตา แต่ยอมรับตำรวจจำเป็นต้องใช้ปืนยิงขึ้นฟ้า เพื่อรักษาความสงบ ยันคนถูกทำร้ายไม่ใช่พยาบาล แต่เป็นผู้ชุมนุมอาสาาอยู่ในหน่วยพยาบาล

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

วันที่ 14 ก.พ. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. แถลงชี้แจงการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และบริเวณหน้าศาลหลักเมือง เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีตำรวจบาดเจ็บ 23 นาย ส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิดปิงปองและได้รับผลกระทบทางการได้ยิน ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ยืนยันเหตุการณ์การรักษาความสงบของตำรวจ ไม่ได้ใช้แก๊สน้ำตา ไม่ได้ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง และกระสุนยางกับกลุ่มผู้ชุมนุม

โดยตำรวจสามารถควบคุมตัวกลุ่มผู้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ก่อเหตุความวุ่นวายได้ 11 คน เมื่อตรวจสอบตัวบุคคลพบว่ามี 3 คนเป็นคนเมาสุราและไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ส่วนอีก 8 คน เป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่ก่อเหตุขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ จึงแจ้งข้อหาผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.โรคติดต่อ และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ขณะนี้ทั้ง 8 คน ถูกคุมตัวไว้ที่บก.ตชด.ภ.1

ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมอ้างผ่านโชเชียลมีเดียว่ามีเจ้าหน้าที่ทำร้ายหมอและพยาบาลในพื้นที่ชุมนุมนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่ได้มีอาชีพพยาบาล แต่อาจเป็นเพียงกลุ่มผู้ชุมนุมที่อาสาอยู่ในหน่วยพยาบาลให้กับผู้ชุมนุมเท่านั้น เจ้าหน้าที่ยืนยันไม่ได้ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ยอมรับตำรวจจำเป็นต้องใช้ปืนยิงขึ้นฟ้า เพื่อรักษาความสงบ เนื่องจากมีผู้ชุมนุมบางกลุ่มไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจคัดกรองและสร้างความวุ่นวาย

สำหรับอีกเหตุการณ์ที่มีกลุ่มวัยรุ่นยิงกันที่ร้านสะดวกซื้อ พบเป็นกลุ่มการ์ดผู้ร่วมชุมนุม ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบเหตุ และได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 1 คน ระหว่างนั้นผู้ร่วมชุมนุมบางส่วน พยายามแย่งตัวผู้ต้องสงสัยจากเจ้าหน้าที่และทำร้ายร่างกายตำรวจ ตำรวจจึงนำตัวไปที่ สน.นางเลิ้ง จากนั้นมีกลุ่มการ์ดพยายามปิดล้อม สน.นางเลิ้ง ตำรวจจำเป็นต้องควบคุมสถานการณ์ จึงใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อระงับเหตุ จากนั้นมีการตรวจสอบพยานบุคคลในที่เกิด รวมถึงหลักฐานอื่นพบว่า ผู้ต้องสงสัยคนนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุความวุ่นวายในร้านสะดวกซื้อจึงได้ปล่อยตัวไป ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี

นอกจากนี้ตำรวจยังเตรียมดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เข้ารื้อต้นไม้รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยด้วย รวมทั้งหากมีหลักฐานยืนยันว่าเจ้าพนักงานถูกทำร้ายก็จะดำเนินคดีย้อนหลัง และหากใครมีข้อมูลว่าถูกทำร้ายจากเจ้าหน้าที่ก็ยินดีมาให้ปากคำกับตำรวจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน