‘อแมนด้า’ ยันทำหน้าที่ต่อ แม้ไร้ตำแหน่งทูตกรมสุขภาพจิต ย้ำจุดยืนประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ซึ่งคือหลักของการเป็นมนุษย์ทุกคน
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ร้าน Tea Please อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก ผู้อำนวยการกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ และณรงค์ เลิศกิตศิริ ผู้ถือลิขสิทธิ์การประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ แถลงข่าวกรณีกรมสุขภาพจิตปลดอแมนด้าจากตำแหน่งทูตด้านสุขภาพจิต
อแมนด้า ชาลิสา กล่าวว่า โครงการ “Have You Listened” ที่ตนก่อตั้งนั้น ก่อตั้งก่อนเข้าพบกรมสุขภาพจิต เป็นโครงการที่มาจากเสียงของหัวใจของตน เพราะมีประสบการณ์เรื่องสุขภาพจิต จึงอยากสานต่อโครงการนี้ให้ทุกคนรู้ว่าเสียงของทุกคนสำคัญ เพราะฉะนั้นไม่ว่าเสียงที่เข้ามาจะเป็นแบบไหนตนพร้อมรับฟัง แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งทูตกรมสุขภาพจิต ตนก็ยังทำหน้าที่ต่อไปได้ หากมีใครอยากให้ช่วยพร้อมร่วมมือเต็มที่ เรื่องผลกระทบไม่กังวล เพราะต้องมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแง่บวก ต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสที่จะทำให้คนรู้จักโครงการของตนมากขึ้น ส่วนการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง จุดยืนในทางการเมืองของตนคือประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ซึ่งคือหลักของการเป็นมนุษย์ทุกคน
“ด้าสามารถเป็นกระบอกเสียงต่อไปได้ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นอาจทำให้เสียงของด้าดังขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่ดับไป ใครไม่ทำเราทำ ขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆ และเห็นประโยชน์ในโครงการของด้า เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลย ด้าจะทำให้ดีที่สุด เพราะมีเจตนาที่ดีต่อสังคม ขอให้ทุกคนเชื่อใจ” อแมนด้า ชาลิสา กล่าว
ด้านปุ้ย ปิยาภรณ์ กล่าวว่า ขออนุญาตท้วงติงเรื่องการใช้คำว่าปลดฟ้าผ่า หรือปลด เพราะจริงๆ แล้วกรมสุขภาพจิตยังไม่ได้แต่งตั้งอแมนด้าเป็นทูตกรมสุขภาพจิตอย่างเป็นทางการ เพียงแค่พูดคุยกันเรื่องโครงการที่อแมนด้าจะทำว่าสามารถสานต่อโครงการร่วมกันได้หรือไม่ โครงการ “Have You Listened” ที่อแมนด้าทำ ต้องบอกว่าเธอมุ่งมั่นและตั้งใจมาก ตนเป็นคนพูดกับอแมนด้าเองว่าโครงการนี้เราจะทำเองไม่ได้ ต้องทำให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ จึงเป็นที่มาของการขอเข้าพบกรมสุขภาพจิตเพื่อขอองค์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นการพบกันเพียง 1 ครั้งเท่านั้น มีการพูดคุยกันโดยกรมสุขภาพจิตบอกว่าจะขอเชิญอแมนด้าเป็นทูตด้านสุขภาพจิต
“เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ กองประกวดยังไม่ได้คุยกับกรมสุขภาพจิตโดยตรง และไม่ได้รับเอกสารอะไรจากกรมเลย แต่ก็ไม่ใช่ว่าต่อไปจะไม่ทำงานร่วมกัน ยังคงมีคุณหมอไฟแรงและทีมงานที่พร้อมสนับสนุนอแมนด้าต่อไป เพราะเป็นโครงการที่ดีและมีประโยชน์ต่อสังคม ต้องช่วยกันทำ ไม่ได้ตกใจ แค่แปลกใจว่าทางเราก็ไม่ได้ร้องขอไปเป็นอะไร เพียงแค่ขอองค์ความรู้เพื่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลเท่านั้น ไม่ได้ขัดแย้งกัน แค่งงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอแมนด้าก็บอกกับพี่ว่าไม่ได้มาเพื่อจะเป็นทูตอะไร แต่เธอทำตามเสียงหัวใจ จะยังคงเดินหน้าทำงานเพื่อสังคมต่อไป” ผู้อำนวยการกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ กล่าว
