เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศรอบพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นวันที่ 6 ที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามในสมุดหลวงถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ภายในศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง
โดยตั้งแต่เปิดประตูเวลา 08.00 น. มีประชาชน นักเรียน นักศึกษา หน่วยงานราชการ แต่งกายชุดสีดำไว้ทุกข์หลั่งไหลเข้าถวายสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่องจนต้องต่อแถวยาว จากศาลาสหทัยสมาคมไปถึงประตูวิเศษไชยศรี โดยประชาชนที่มาสักการะต่างถือภาพพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงในพระบรมโกศไว้แนบอก โดยวันนี้เจ้าหน้าที่นำเก้าอี้มาตั้งภายในเต็นท์ให้ประชาชน ตั้งคอยขณะต่อแถวรอร่วมลงนามถวายคงวามอาลัย จำนวน 6 แถวยาว 6 เต็นท์ ในส่วนของจิตอาสาต่างๆ ก็มาคอยบริการประชาชนอยู่รอบๆ สนามหลวงทั้งบริการเข็นรถให้ผู้สูงอายุ เด็กนักเรียนเดินเก็บขยะ
นอกจากนี้ ประชาชนบางส่วนต่างมาจับจองพื้นที่บริเวณสองฝั่งถนนตั้งแต่ประตูวิเศษไชยศรี และลานสนามหญ้าหน้าศาลาสหทัยสมาคม เพื่อรอรับเสด็จฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่จะเสด็จฯมาบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวารพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ขณะที่สถานที่ราชการรอบพระบรมมหาราชวัง นำพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาติดตั้ง พร้อมประดับตกแต่งดอกไม้อย่างสวยงาม เพื่อให้ประชาชนร่วมวางดอกไม้ และกราบสักการะแสดงความอาลัย ในส่วนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยศิลปากร อนุญาตให้ประชาชนที่มาร่วมงานสามารถเข้าไปหลบฝนได้ภายในมหาวิทยาลัย หากเกิดฝนตก
สำหรับการรักษาความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบกระจายกำลังโดยรอบพระบรมมหาราชวัง และสนามหลวง เพื่อดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกผู้มาร่วมงาน โดยมีเจ้าหน้าที่ อส. เดินประกาศผ่านโทรโข่งให้ประชาชนที่มาร่วมงานให้ระวังมิจฉาชีพ ที่อาจประปนก่อเหตุกับผู้คนที่อยู่ในงาน
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์หลังร่วมพิธีภายในพระบรมมหาราชวังว่า ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารในการดูแลรักษาความปลอดภัย และความเรียบร้อยของงานพระราชพิธี ซึ่งงานครั้งนี้ต้องทำให้สมพระเกียรติ รวมถึงต้องดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง ในส่วนการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรนั้น เจ้าหน้าที่ที่ดูแลรับผิดชอบได้ปรับแผนรับมือทุกวันจนลงตัวแล้ว ทั้งนี้ในระยะยาวได้วางแผนเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว
ด้าน นายสาย ภูมิผิว อายุ 76 ปี กล่าวว่า ตนนั่งรถประจำทางมาจากอ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ออกจากบ้านตั้งแต่ 05.00 น. และถึงบริเวณพระบรมมหาราชวัง ประมาณ 08.00 น. แต่ไม่ได้เข้าไปถวายความอาลัยพระองค์ท่าน เพราะนั่งพับเพียบไม่ได้ แต่ก็ตั้งใจจะมานอนค้างคืนบริเวณสนามหลวง 3-4 คืน เพื่อมานั่งสวดมนต์ให้พระองค์ท่านไปสวรรค์
“ในหลวงทำงานตลอดเวลา ไม่มีเวลาพักผ่อน จะหาในหลวงคนไหนแบบนี้ในโลกที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว เราจะทำอะไรก็ทำให้พอดี อย่าให้เกินไป ให้มีความละอายในการทำผิดชอบชั่วดี จากนี้ตั้งใจจะไม่เล่นการพนัน สูบบุหรี่ กินเหล้า และจะทำความดีเรื่อยไป เพื่อตอบแทนพระองค์ท่าน” ตาสาย กล่าว
