เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สง่า ธีรศรัณยานนท์ รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยพ.ต.อ.ชัยยะ เพชรปัญญา ผกก.สภ.บางปะอิน นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีฝ่ายวิชาการกรมการขนส่ง น.ส.อิสรี เกตุกล่ำ ผอ.คปภ.จ.พระนครศรีอยุธยา นายมานิตย์ ศรีทอง ทนายความบริษัททัวร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงถึงเหตุการณ์รถตู้โดยสารรับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นชนท้ายรถบรรทุก บนถ.สาย 347 ปทุมธานี-บางปะหัน มุ่งหน้าบางปะหัน ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 28 ม.8 ต.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 5 ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น 4 คน และ ไกด์ชาวไทย 1 คน สวนคันขับรถตู้ชื่อนายจรัญ อักษรศรี อายุ 52 ปี บาดเจ็บสาหัส พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา

นายมานิตย์ กล่าวว่า เราขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อการสูญเสีย ทางบริษัทเราขอยืนในมาตรฐานการดูแลลูกค้า ส่วนการเยียวยาผู้เสียชีวิต เราขอดูรายละเอียดของเหตุการณ์และสาเหตุอย่างละเอียด เรายินดีรับผิดชอบทั้งหมด ขณะนี้ขอให้ข้อมูลเพียงเท่านี้

ด้าน พ.ต.อ.สง่า กล่าวว่า การตรวจสอบและสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุมีความชัดเจน ส่วนรายละเอียดอยู่ในสำนวนไม่ขอเปิดเผย โดยรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเป็นผู้เปิดเผย

นายกมล กล่าวว่า จาการตรวจสอบสภาพของรถยนต์ตู้ พบมีความพร้อมในการใช้งานตรงตามมาตรฐานที่ขนส่งกำหนด ทั้งเข็มขัดนิรภัยที่ติดตั้งทุกที่นั่ง และผู้โดยสารทั้งหมดในรถมีการคาดเข็มนิรภัย ตรวจสอบระบบจีพีเอสพบว่ารถยนต์ตู้วิ่งที่ความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วเกิดอุบัติเหตุ จึงสันนิษฐานได้ว่า คนขับอาจจะมีการอ่อนเพลียแล้วเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมการขนส่งเข้มงวดการตรวจสภาพรถยนต์สาธารณะ รวมถึงผู้ขับขี่มาตลอด ซึ่งต่อไปจะเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบความพร้อมของรถยนต์สาธารณะและตัวผู้ขับขี่

ด้าน น.ส.อิสรี กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นรถตู้มีประกันภัย พ.ร.บ.และภาคสมัครใจ ป.1 กับ บมจ.แอลเอ็มจีประกันภัย ซึ่งทางบริษัทพร้อมจ่ายค่าชดเชยตามที่กำหนดทันที ผู้เสียชีวิตรายละ 400,000 บาท ส่วนรถบรรทุกสิบล้อมีประกันพ.ร.บ. และภาคสมัครใจ ป.3 กับ บมจ.วิริยะประกันภัย ซึ่งหากผลคดีมีความชัดเจน ทางบริษัททั้งสองพร้อมจ่ายค่าสินไหมตามที่กำหนด

รายงานข่าวแจ้งว่า นายจรัญ อักษรศรี อายุ 52 ปี คนขับรถตู้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้นว่า ได้ไปรับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นทั้งหมดช่วงเช้ามืดของวันที่ 8 พ.ย. ที่สนามบินสุวรรณภูมิและนักท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ จากนั้นช่วงบ่ายเดินทางมาท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ก่อนถึงจุดเกิดเหตุได้วูบหลับใน แล้วเสียงสัญญาณของจีพีเอสดังเตือนว่าความเร็วเกิน จึงรู้สึกตัว แต่รถได้เสียหลักพุ่งชนท้ายรถบรรทุกแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน