ศาลอาญาตัดสินประหารชีวิตแก๊งคนงานแค้นจัดโดนทวงค่าไฟ มีดกระหน่ำแทง 2 พี่น้องดับคาบ้าน ศาลปรานีลดโทษเหลือติดตลอดชีวิต ชดใช้ค่าเสียหายญาติคนตาย 1.5 ล้าน

เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ห้องพิจารณา 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านพิพากษา คดีดำอ.ที่ 95/2560 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องนายไพฑูรย์ หรือต้อม พวงมาลา อายุ 35 ปี ชาวจ.อุบลราชธานี, นายพันธิตร หรือเลิฟ ขันทอง 21 ปี ชาวจ.ประจวบคีรีขันธ์, นายมาโนช หรือโน้ต ทองทา 29 ปี ชาวกทม., นายอภินันท์ หรือ แบ็งค์ จันทะเนาว์ 23 ปี ชาวจ.อุบลราชธานี และนายจิระ หรือแม็ค บัวโค้ง 26 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด ทั้งหมดมีอาชีพรับจ้าง เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน บุกรุกเข้าไปในเคหะสถานของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุสมควรโดยกระทำในเวลากลางคืน ร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะ จำเลยให้การปฏิเสธ

คดีนี้ญาติผู้ตายเข้าเป็นโจทก์ร่วม และเรียกค่าสินไหมทดแทนตามป.อาญามาตรา 44/1

โดยอัยการโจทก์ฟ้องระบุความผิดสรุปว่า เมื่อคืนวันที่ 21 ตุลาคม 59 เวลากลางคืน พวกจำเลยบังอาจบุกเข้าไปบ้านเช่าเลขที่ 67/22 ซ.ลาดพร้าว 35 แขวง จันทรเกษม เขตจตุจักร แล้วใช้อาวุธมีด แทงนายปฐมพงษ์ ภูมิภาค อายุ 48 ปี และนายนิยม ภูมิภาค อายุ 55 ปี สองพี่น้องถึงแก่ความตาย เนื่องจากโกรธเคืองที่ถูกทวงค่าไฟฟ้า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พหลโยธิน ติดตามจับตัวพวกจำเลยได้ พร้อมให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า นายไพฑูรย์ จำเลยที่ 1 โกรธเคืองที่นายปฐมพงษ์ ผู้ตายและภรรยา ทวงค่าไฟฟ้าจากนายไพฑูรย์ จำเลยที่ 1 และครอบครัว รวมทั้งขู่จะฆ่าภรรยานายไพฑูรย์ จำเลยที่ 1 ด้วย ที่ไม่ยอมช่วยค่าไฟเมื่อครั้งเช่าบ้านร่วมกัน สร้างโกรธแค้นให้นายไพฑูรย์ คืนวันเกิดเหตุนายไพฑูย์ ซึ่งมีอาการเมาสุรากับพวกจำเลยมาหานายปฐมพงษ์ ที่บ้านเช่า แล้วเรียกนายปฐมพงษ์กับภรรยาออกมาพบ แต่นายปฐมพงษ์ไม่ยอม พวกจำเลยจึงบุกเข้าไปใช้มีดปลายแหลมหลายเล่มที่เตรียมมาจ้วงแทงนายปฐมพงษ์จนถึงแก่ความตาย ส่วนภรรยาร้องขอความช่วยเหลือ จนนายนิยมพี่ชายนายปฐมพงษ์ที่พักอยู่ใกล้เข้ามาช่วยเหลือ จึงถูกพวกจำเลยใช้มีดแทงเสียชีวิตไปด้วย ก่อนพากันหลบหนีไป

ศาลเห็นว่า การกระทำของพวกจำเลยมีลักษณะทบทวน แบ่งงานกันทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตายทั้งสอง โดยไตร่ตรองไว้ก่อน เป็นความผิดตามฟ้อง ลงโทษประหารชีวิตจำเลยที่1, 2, 3 และ 5 ปรับคนละ 900 บาท

อย่างไรก็ตาม คำเบิกความ คำให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้างมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษหนึ่งใน 3 คงจำคุกจำเลยทั้ง 4 ไว้ตลอดชีวิต ปรับคนละ 600 บาท และให้จำเลยทั้ง 4 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่ญาติผู้ตายรวม 1.5 ล้านบาทด้วย

ส่วนจำเลยที่ 4 ให้ยกฟ้อง แต่ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน