เมื่อ 13 พ.ย. เวลา 16.00 น. พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เปิดเผยว่า ตามที่ พลทหาร อดิศักดิ์ น้อยพิทักษ์ สังกัด กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 15 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร เสียชีวิตในระหว่างการฝึก เมื่อวันที่ 11 พ.ย. เวลา 20.35 น. ที่ โรงพยาบาลค่ายเทพสตรีศรีสุนทร และต่อมาเว็บไซต์ข่าวแห่งหนึ่ง ได้นำเสนอข่าวสาเหตุของการเสียชีวิตที่อาจทำให้สังคมเกิดความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น กองทัพภาคที่ 4 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 จึงขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจ ดังนี้

1.กองทัพภาคที่ 4 ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับญาติและครอบครัวของ พลทหาร อดิศักดิ์ น้อยพิทักษ์ ที่ได้เสียชีวิตอย่างกะทันหัน ในระหว่างการฝึกตามหลักสูตรการฝึกทหารใหม่ 10 สัปดาห์ และได้ป่วยด้วยโรคประจำตัว ถึงแม้ว่าทีมแพทย์และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะทำการช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้วก็ตาม ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการเน้นย้ำให้หน่วยต้นสังกัดเร่งทำการช่วยเหลือด้านสวัสดิการและสิทธิกำลังพลอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอำนวยความสะดวก และการช่วยเหลือด้านการจัดการศพให้ดีที่สุด

2.กองทัพภาคที่ 4 ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการฝึกทหารใหม่ ให้เป็นนโยบายสำคัญ ที่ทุกหน่วยฝึกต้องยึดถือและปฏิบัติตามให้เป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้ โดยได้ทำการคัดกรองทหารใหม่ทุกคน ตั้งแต่ วันแรกของการเข้ารายงานตัว เพื่อเฝ้าระวังบุคคลที่เป็นกลุ่มเสี่ยง สำหรับ พลทหาร อดิศักดิ์ ได้ตรวจพบว่ามีโรคประจำตัวด้านกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ และมีประวัติการเสพยาเสพติด จึงได้นำส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาติดต่อกันหลายครั้ง และแพทย์ได้มีความเห็นให้งดการฝึกเป็นระยะๆ ทั้งนี้ในระหว่างพักฟื้น หน่วยได้จัดเจ้าหน้าที่เสนารักษ์เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด

3.กองทัพภาคที่ 4 ขอยืนยันให้สังคมได้รับทราบว่า ได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือชีวิต โดยไม่มีการซ้อมทรมานหรือปฏิบัติอื่นใดที่นอกเหนือกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ดังที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ ได้ให้คำแนะนำญาติ ให้นำศพไปผ่าชันสูตรเพื่อวิเคราะห์สาเหตุของการเสียชีวิตโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ณ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

พันเอก ปราโมทย์ ยังกล่าวว่า ล่าสุดทีมแพทย์ได้สรุปสาเหตุการตายในเบื้องต้นให้กับพ่อแม่และญาติทราบว่า เกิดจากการติดเชื้อในช่องท้อง เนื่องจากเป็นโรคกระเพาะและลำไส้ทะลุ ซึ่งเป็นโรคที่เป็นมาตั้งแต่ก่อนถูกส่งตัวเข้ากองประจำการ และไม่พบว่ามีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด สำหรับรอยฟกช้ำที่เห็นไม่ได้เกิดจากการทำร้าย แต่เกิดจากการติดเชื้อ ทำให้ศพมีสีคล้ำ ซึ่งทุกคนต่างก็มีความเข้าใจเป็นอย่างดี จึงขอให้ใช้ความระมัดระวังในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง เพราะทำให้สังคมเกิดความเข้าใจที่ไม่รอบด้าน และมีความผิดตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน