เวลา 19.00 น. วันที่ 13 พ.ย. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง ผบช.ทท. พร้อม จนท.ตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รรท.ผบก.สปพ.พร้อมเจ้าที่ตำรวจ 191 พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย ผกก.โคกกรอย จ.พังงา ผู้เชี่ยวชาญแกะรอยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเจ้าหน้าสืบสวนนครบาลนำหมายศาลเข้าปิดล้อมตรวจค้นแก๊ง call center พร้อมกันในพื้นที่กทม.และปริมณฑล รวม 7 จุด

สามารถจับกุมผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติได้หลายราย อาทิ ชาวไต้หวัน จีน และคนไทยที่ร่วมขบวนการ พร้อมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบโน๊ตบุ๊กและอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์เครื่องวีโอไอพี เป็นเครื่องมือสร้างหมายเลขโทรศัพท์ปลอม ในการใช้โทร.แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ข้าราชการจากหลายหน่วยงานติดต่อเข้ามาหาเหยื่อ

กำลังเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบถึงแหล่งกบดานของสมาชิกแก๊งชาวต่างชาติมีการเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงเข้าปิดล้อมตรวจค้นห้องเช่าเป้าหมายที่เป็นกลุ่มชาวต่างชาติมาอาศัยอยู่รวมกันและน่าจะเป็นเครือข่ายของสมาชิกแก๊ง call center ได้กระจายเข้ามาอยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี

โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าค้น อาคาร 2 C ชั้นสองห้องเช่าเลขที่ 72/104 และ อาคาร 3A ชั้น 1 ห้องเช่าเลขที่ 68/425 ภายในหมู่บ้านสวนธน 3 ถนนรัตนาธิเบศร์ ซอย 28 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้ผู้ต้องหาทั้งหมดจำนวน 8 ราย เป็นชายชาวไต้หวัน 5 คน ชายชาวจีน 1 คน หญิงชาวจีน 2 คน

เจ้าหน้าที่ได้จับกุมชายชาวไทยที่ร่วมขบวนการได้เพิ่มที่ สน.นิมิตรใหม่ได้อีก 3 คน มีหน้าที่คอยรับ-ส่งและส่งอาหารให้แก่กลุ่มชาวต่างชาติทั้งหมด โดยมีนายทุนใหญ่คนไทยและนายทุนชาวจีนอยู่ในพื้นที่ตามตระเข็บชายแดนฝั่งปอยเปต ซึ่งจะให้ค่าจ้างคนไทยในการคอยดูแลกลุ่มคอลเซ็นเตอร์เดือนละ 30,000 บาท

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง ผบช.ทท.กล่าวว่า ได้บูรณาการร่วมกันหลายฝ่ายตามคำสั่งของรัฐบาลเพื่อกวาดล้างชาวต่างชาติที่แอบหลบหนีมาอาศัยอยู่ในประเทศไทยหรือพวกกลุ่มแก๊ง ที่อยู่เกินกำหนดระยะอนุญาตหรือ Overstay ที่แอบอาศัยอยู่ในเมืองไทยประมาณกว่า 200,000 คนได้ โดยพวกนี้หากอยู่ในเมืองไทยจะมีนายทุนใหญ่ส่งกลุ่มคนเหล่านี้ บางส่วนทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ที่คอยโทรศัพท์กลับไปหลอกเอาเงินจากประเทศตัวเองและหลอกเงินจากชาวบ้านในประเทศไทยด้วย

ที่ผ่านมาได้ขอศาลอนุมัติหมายจับออกไปแล้วกว่า 89 ราย ซึ่งขณะนี้ทางผบ.ตร.มีคำสั่งให้มีชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการปราบปรามเหล่ากลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งหลายที่กำลังสร้างปัญหาให้กับประชาชนและกำลังระบาดไปทั่วประเทศ โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จำนวนมหาศาลไปด้วย ซึ่งกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้จะมีอุปกรณ์เชื่อมต่อพ่วงแบบไฮเทคกับคอมพิวเตอร์ในการปลอมหมายเลขโทรศัพท์ แล้วพยายามโทร.สุ่มโทรศัพท์เข้าไปติดต่อพูดคุยโน้มน้าวให้เหยื่อหลงกลรับสายเข้า เช่น แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ขอตรวจสอบเงินในบัญชีธนาคารที่มักจะอ้างว่าคุณอาจพัวพันธ์กับยาเสพติด หรือเป็นหนี้บัตรเครดิตต้องชำระในยอดพิเศษ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ภาษี หรือได้รางวัลชิ้นใหญ่จากต่างประเทศแต่ต้องโอนเงินบางส่วนออกมาชำระภาษีก่อน

และหากเหยื่อไม่ทำตามขั้นตอนก็ขู่จะอายัดเงินในบัญชีธนาคารของเหยื่อเอาไว้ทั้งหมด ให้รีบกดเงินสดออกมา หรือย้ายโอนเงินไปใส่อีกบัญชีธนาคารหนึ่งที่ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้เตรียมเอาไว้ให้แล้ว จึงอยากฝากเตือนประชาชนไม่ให้หลงกล หรือตกเป็นเหยื่อ
—–

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน