ศรีสุวรรณ ร้อง อนุชา จี้ สำนักพุทธฯ สอบ พระมหาสมปอง ปม รีวิวสินค้า-นั่งที่ปรึกษาสโมสรฟุตบอล ระบุ เป็นโลกวัชชะ อาจต้องอธิกรณ์เข้าข่ายอวดอุตตริมนุสสธัมม์

วันที่ 4 พ.ค.2564 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏในโชเชียลมีเดียและสื่อมวลชนอย่างแพร่หลาย กรณีที่ พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต พระนักเทศน์ชื่อดังแห่งวัดสร้อยทอง ได้ช่วยรีวิวแนะนำสินค้าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมให้กับบริษัทเอกชนรายหนึ่ง

นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า โดยช่วยโฆษณาสรรพคุณให้อย่างเลิศเลอไม่กระดากปาก ทั้ง ๆ ที่ฐานานุรูปของตนนั้นเป็นถึงสมณะหรือเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา เป็นสาวกขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้อนุญาตให้เป็นตัวแทนของพระองค์ในการเผยแพร่หลักธรรมเพื่อให้ทุกคนหลุดพ้นจากกิเสสตัณหามุ่งสู่นิพพานเป็นที่ตั้ง หาใช่ทำตนเป็นสาวกของบริษัทเอกชน ที่มุ่งแสวงหากำไรและผลประโยชน์เป็นอาจิณไม่

ศรีสุวรรณ ร้อง อนุชา จี้ สำนักพุทธฯ สอบ พระมหาสมปอง ปม รีวิวสินค้า-นั่งที่ปรึกษาสโมสรฟุตบอล

ศรีสุวรรณ ร้อง อนุชา จี้ สำนักพุทธฯ สอบ พระมหาสมปอง ปม รีวิวสินค้า-นั่งที่ปรึกษาสโมสรฟุตบอล

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า การกระทำดังกล่าว เป็นโลกวัชชะ ที่ถูกสังคมย่อมติเตียน และอาจต้องอธิกรณ์เข้าข่ายอวดอุตตริมนุสสธัมม์ คือ การโอ้อวดความสามารถของตัวเอง อันเป็นโทษที่ร้ายแรงหนึ่งในปาราชิก ข้อที่ 4 ซึ่งอาจต้องหลุดพ้นจากการเป็นพระภิกษุได้ นอกจากนี้ ล่าสุดพระมหาสมปองยังได้ยอมรับไปเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ให้กับสโมสรฟุตบอล ซึ่งเป็นองค์กรธุรกิจเอกชน เพื่อหวังสร้างภาพลักษณ์ทำการตลาดสร้างกำไรให้กับสโมสร

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า อันขัดต่อศีลบัญญัติ 227 ข้อที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติห้ามภิกษุไว้โดยชัดแจ้ง อาทิ อาบัติสังฆาทิเสสข้อที่ 13 คือ ทำตัวเป็นเหมือนคนรับใช้ ยอมตนให้คฤหัสถ์ใช้สอย ประจบคฤหัสถ์ เป็นต้น ทั้งนี้ บุคคลใดก็ตามที่กระทำการดังกล่าวได้ อาจมิใช่การกระทำของพระภิกษุผู้มีศีลในบวรพุทธศาสนา หากแต่เป็นอลัชชี-เดียรถีย์หนีเข้ามาแอบบวชได้

“ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขาของมหาเถรสมาคม จักต้องรีบดำเนินการไต่สวนและสอบสวนกรณีดังกล่าวเสียโดยเร็ว หากเป็นความผิดจะได้รีบกำจัดออกไปเสียจากพุทธศาสนา เพื่อไม่ให้ผู้ใดก็ตามที่โกนหัวห่มเหลืองแล้วแสร้งมาทำตนเป็นพระให้ผู้คนหลงกราบไหว้ มากระทำการอันไม่เหมาะสม ทำลายพระพุทธศาสนาเยี่ยงนี้ได้” นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังรัฐมนตรีอนุชา นาคาศัย ซึ่งมีอำนาจกำกับดูแลในเรื่องนี้อยู่ และผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อให้ตำรวจพระเร่งสอบสวนเอาผิดบุคคลที่ทำตัวเป็นอลัชชี-เดียรถีย์เหล่านี้เสีย เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการมหาเถรสมาคม เพื่อมิให้พระภิกษุรูปอื่นๆ ยึดถือเป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน