เมื่อวันที่ 19 พ.ย. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีมีผู้เผยแพร่คลิปนักเรียนอาชีวะย่านศรีย่าน ถูกกลุ่มจักรยานยนต์รับจ้างรุมทำร้าย ทำให้กระแสสังคมรุมประณาม และวิจารณ์ถึงความป่าเถื่อนของกลุ่มคนดังกล่าวไปต่างๆ นานา ว่า จากการตรวจสอบพบเหตุเกิดเนื่องจากช่วงเช้าวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 09.00 น. เด็กนักเรียนที่เห็นในภาพ ได้ขี่จักรยานยนต์ปาดหน้าจักรยานยนต์รับจ้างคันหนึ่ง แล้วมองหน้ากัน

จากนั้นต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไป จนกระทั่งอีกครู่ต่อมา ทั้งสองขี่จักรยานยนต์มาเจอกันอีก ฝ่ายจักรยานยนต์รับจ้างซึ่งเป็นผู้ใหญ่กว่า จึงพูดจาตำหนิเด็กนักเรียนถึงเรื่องมารยาทการขับขี่รถ จนเรื่องบานปลายเป็นการต่อสู้ชกต่อยกัน ทำให้เพื่อนนักเรียนที่อยู่ในบริเวณนั้นอีก 4 คน เข้ามาช่วยรุมทำร้ายจักรยานยนต์รับจ้าง จนได้รับบาดเจ็บดั้งจมูกหัก

รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากที่ตั้งวินจักรยานยนต์เพียง 30 เมตรทำให้เพื่อนวินจักรยานยนต์กรูกันเข้ามาช่วย เด็กนักเรียนอีก 4 คน วิ่งหลบหนีเข้าโรงเรียนไปได้ เหลือเพียงเด็กที่เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุเพียงลำพัง จึงถูกวินจักรยานยนต์รับจ้างรุมทำร้าย จนมีอาการฟกช้ำไปทั้งตัวตามที่เห็นในภาพ เรื่องนี้เมื่อมีผู้โทรศัพท์แจ้งความมายัง สน.สามเสน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามตัวผู้ร่วมก่อเหตุทั้งสองฝ่ายมาได้จนครบทุกคน และนำตัวมายัง สน. โดยเชิญพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนและผอ.โรงเรียน มาร่วมรับฟังการสอบปากคำด้วย

จากการสอบปากคำเบื้องต้นพบว่าเป็นการทำร้ายกันทั้งสองฝ่าย โดยวินรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บมากกว่า แต่เห็นแก่อนาคตของเด็กจึงไม่ติดใจเอาความ ส่วนเด็กนักเรียนก็สำนึกผิด ต่างฝ่ายยอมขอโทษซึ่งกันและกัน ทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ก่อความวุ่นวายใดๆ อีกหลังจากนี้ เพราะต่างก็ให้อภัยกันแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในทางกฎหมาย กรณีนี้ถือเป็นความผิดต่อแผ่นดิน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจำเป็นต้องดำเนินคดีกับทั้งสองฝ่าย โดยแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำร้ายผู้ใหญ่ และผู้ใหญ่ทำร้ายเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถตั้งข้อหากับนักเรียนได้ เนื่องจากได้ส่งตัววินจักรยานยนต์ที่จมูกหักไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลวชิระ และส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลสมิติเวช จึงต้องรอผลการตรวจร่างกายจากแพทย์ว่าถูกนักเรียนทำร้ายบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ก่อน

“ฝากถึงพี่น้องประชาชนว่าในการใช้รถใช้ถนนนั้น ย่อมต้องเกิดการกระทบกระทั่งกันบ้าง อยากให้ทุกฝ่ายมีสติ และรู้จักให้อภัยซึ่งกันและกัน อยากให้ลองฝึกส่งรอยยิ้มให้คนที่ขับรถปาดหน้าเราดู ยิ้มให้เขาจากใจจริง แผ่เมตตา ขอให้เขาถึงบ้านอย่างปลอดภัย อย่าหวังแค่เอาชนะกันบนถนน เพราะคนที่ชนะอย่างแท้จริงคือคนที่ได้กลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวที่บ้านอย่างมีความสุข ไม่มีเรื่องคดีความให้ทุกข์ร้อนใจต่างหาก” พล.ต.อ.วิระชัย กล่าว

รอง ผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า ฝากถึงประชาชนผู้เห็นเหตุการณ์ บางทีเราไม่ได้เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น การนำคลิปวิดีโอไปเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าตัวผู้ถูกถ่ายวิดีโอ จนทำให้วินรถจักรยานยนต์ตกเป็นจำเลยและได้รับความเกลียดชังจากสังคม จนเมื่อความจริงปรากฏภายหลังว่าเรื่องเป็นอีกอย่างหนึ่ง ดังนี้ สามารถแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่เผยแพร่วิดีโอเป็นคนแรก รวมถึงผู้ที่แชร์วิดีโอต่อไปได้ ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยภาพ มีโทษทั้งจำและปรับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน