“บิ๊กตู่ลั่น” ไม่อนุมัติ ถอดหน้ากากประชุมสภา” ยัน” มาตรการต้องบังคับใช้อย่างเท่าเทียม ลั่น ทุกคนไม่มีอภิสิทธิ์อะไรที่จะได้รับยกเว้นจากการควบคุมโรค
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ประชุม 4 ฝ่าย เตรียมความพร้อมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร หลังมีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญ ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ โดยจะขออนุญาตในคำสั่ง เรื่องการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อออกนอกเคหะสถาน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้พิจารณาแล้ว ไม่อนุมัติคำขอดังกล่าว โดยเห็นว่าอยู่ในช่วงของการระบาดขั้นรุนแรง มีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจ่ายของโรคโดยง่าย
“ในกรณีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่าไม่ได้มีการอนุมัติในหลักการในเรื่องนี้ และทุกคนไม่มีอภิสิทธิ์อะไรที่จะได้รับยกเว้นจากการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ไม่มีการอนุมัติหลักการเพื่อผ่อนผัน คนไทยทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการที่เข้มงวด ไม่มีเลือกปฏับัติ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี เห็นว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะมีการอภิปรายนั้น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีอำนาจในการพิจารณา ให้ผู้อภิปรายถอดหน้ากากเป็นรายๆได้ อยู่ในอำนาจของประธานสภา”
ด้านพญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวถึงกรณีข้อสงสัยข่าว ศบค.เตรียมออกข้อกำหนดยกเลิกการใส่หน้ากากผ้าหน้ากากอนามัยเพื่อรองรับการประชุม ว่า ขอเรียนย้ำว่าข่าวที่ทำให้ประชาชนสับสน ต้องฟัง ศบค.ชี้แจง การยกเลิกข้อกำหนดนั้นไม่มีแน่นอน ยังใช้ข้อกำหนดที่ 22 กำหนดสวมหน้ากากผ้าหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเป็นการบังคับใช้
แต่มีการพูดคุยว่าในระยะอันใกล้นี้จะมีกาประชุม ทั้งระดับประเทศ ระดับท้องถิ่น เปิดสภาท้องถิ่น หากมีการประชุมต้องเน้นย้ำให้เห็นตรงกันว่า เราสนับสนุนให้มีการประชุมออนไลน์มากที่สุด ใช้เทคโนโลยี แต่กรณีที่มีความำจเป้นต้องจัดการประชุมที่มีการรวมกัน ให้ยึดข้อกำหนดที่ 22 คือสวมหน้ากากตลอดเวลา และมีการขยายแนวปฏิบัติเพิ่มเติมในสถานการณ์จำเพาะ ให้มีการผ่อนผันการสวมหน้ากากได้โดยผู้ควบคุมการประชุม ซึ่งอาจเป้นประธานในที่ประชุม และเน้นย้ำว่าผ่อนผันได้เฉพาะในช่วงการอภิปรายแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะผู้ทำการอภิปรายเท่านั้น
