ประสิทธิ์ เจียวก๊ก นอนคุก ชวดประกัน จับแล้วกิตติศักดิ์ รองประธานฯ ผู้ต้องหารายสุดท้าย

กรณีกองปราบร่วมกับ บก.ปอศ. และ บก.ปอท. เปิดปฏิบัติการทะลายเครือข่ายของนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน หลังร่วมกับพวกเปิดบริษัทหลอกนักลงทุนหลายรูปแบบ

โดยมีการจับกุมผู้ร่วมขบวนการไปแล้ว 4 คน คือพ.ท.พญ.อมราภรณ์ วิเศษสุข อายุ 34 ปี ประธานโครงการ “เที่ยวเพื่อชาติ” น.ส.ณัฐวรรณ อุตตมะปรากรม น.ส.สิริมา เนาวรัตน์ และนายกิตติวัฒน์ อ่วมอารีย์

ส่วนนายประสิทธิ์ หัวหน้าขบวนการ ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมาเหลือเพียงนายกิตติศักดิ์ เย็นนานนทน์ รองประธานกรรมการบริหาร ที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 18 พ.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ รอง ผบก.ปอศ. เปิดเผยความคืบหน้าว่า พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างประสานศาลอาญา ทำเรื่องฝากขังนายประสิทธิ์ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนท์

โดยพนักงานสอบสวนได้ค้านการประกันตัวด้วย เนื่องจากเป็นคดีที่มูลค่าความเสียหายสูง มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก หากผู้ต้องหาได้ประกันตัวไปแล้วเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลในการตัดสิน ซึ่งหากอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ก็จะปล่อยตัวที่กองปราบปราม แต่หากคัดค้าน ก็จะส่งตัวไปขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯทันที

พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำนายประสิทธิ์ ยังคงยืนกรานปฏิเสธ ส่วนเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุน การชักชวนผู้เสียหายหรือการโอนย้ายทรัพย์สินต่างๆ นั้น เจ้าตัวไม่ขอให้การในชั้นพนักงานสอบสวน ซ้ำยังยืนยันว่าธุรกิจต่างๆ ของบริษัทในเครือยังสามารถดำเนินการต่อไปได้

ส่วนพล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานชุดคลี่คลายคดี กล่าวถึงกรณีเพจโครงการคืนคุณแผ่นดิน โพสต์ภาพนายประสิทธิ์ กำลังหารือร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำกัด เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยมีนายตำรวจระดับสูงให้การต้อนรับ ว่า

จากการตรวจสอบบริษัทสหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจบริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน จำกัด ในเครือของนายประสิทธิ์ พบว่ามีการยกเลิกและปิดตัวบริษัทลงไปก่อน เนื่องจากดำเนินการผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งยังไม่มีการดำเนินงานใดๆ ร่วมกับสหกรณ์ตำรวจ แต่จากภาพที่ปรากฎ คงเป็นเพียงการหารือกันเท่านั้น

พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่มีการกล่าวอ้างว่านายประสิทธิ์ พาดพิงถึงเบื้องสูงจะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอาญา ม.112 หรือไม่นั้น จากการตรวจสอบพบว่า การกระทำของนายประสิทธิ์ ที่ทำทีเป็นจิตอาสาทำความดี อันเป็นลักษณะการฉ้อโกงเพื่อสร้างเครดิตให้ตัวเองนั้นยังไม่เข้าข่ายความผิดทางกฎหมาย ไม่ได้มีการระดมทุนโดยอ้างว่าจะนำเข้าสถาบัน

แต่ขอเรียนประชาชนว่า ขอให้แยกแยะเรื่องการทำความดีกับการกระทำผิดว่าไม่เกี่ยวข้องกัน ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่ายของผู้ต้องหาว่า มีการยักย้ายถ่ายเทไปที่ใด ถึงญาติหรือคนใกล้ชิดบ้างหรือไม่ ยอมรับว่ามีความยากพอสมควร แต่ก็จะตรวจสอบให้ได้มากที่สุด

ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายกิตติศักดิ์ เย็นนานนท์ อายุ 55 ปี รองประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือเอ็มกรุ๊ป ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในคดีดังกล่าว ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี ได้ที่ภายในซอยงามวงศ์วาน 51 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ก่อนควบคุมตัวมาทำการสอบสวนยังกองบังคับการปราบปราม

จากการสอบสวนทราบว่านายกิตติศักดิ์ นั้นเป็นกรรมการบริษัทเหนือโลก จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือบริษัทเอ็มกรุ๊ป มีการเปิดบัญชีรับโอนเงินจากการซื้อขายกระเป๋าแบรนด์เนม ซึ่งเป็น 1 ใน 5 รูปแบบการลงทุนในเครือข่ายดังกล่าว รวมถึงยังเป็นผู้ลงนามเซ็นเอกสารทางธุรกรรมต่างๆของบริษัทอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังตำรวจทำเรื่องฝากขังนายประสิทธิ์ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนท์ โดยนายประกันของผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวด้วยหลักทรัพย์เงินสด 400,000 บาท

โดยศาลอาญา พิเคราะห์แล้ว พฤติการณ์แห่งคดีร้ายแรง ความเสียหายมีจำนวนมาก ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว กรณีมีเหตุอันควรเชื่อว่า หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา จะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานจึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัวผู้ต้องหาจากกองบังคับการณ์กองปราบปรามไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯระหว่างฝากขังต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน