เมื่อวันที่ 23 พ.ย. นายรณชิต แย้มสะอาด รักษาการรองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่จริงบริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงกรณีบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม ผู้รับสัมปทานให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที ถอดที่นั่งผู้โดยสารแถวกลางในขบวนออก เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางได้มากขึ้นว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่าการถอดเบาะที่นั่งตรงกลางออกของรถจำนวน 1 ขบวน ซึ่งประกอบด้วย 3 ตู้ ทำให้รถไฟฟ้ารองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นประมาณ 30 คน/ตู้ หรือรวมทั้งสิ้น 90 คนต่อขบวน

เบื้องต้นรฟม.ขอให้บีอีเอ็มทดลองให้บริการรถไฟฟ้าที่ถอดเบาะจำนวน 1 ตู้ไปก่อนจนถึงสิ้นเดือนพ.ย. เพื่อประเมินผลดีผลเสียและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้ใช้บริการ โดยช่วงต้นเดือนจะเชิญบีอีเอ็มมาหารืออีกครั้งเพื่อสรุปผลการประเมิน หากผลสรุปชี้ว่าการถอดเบาะมีผลดีต่อผู้ใช้บริการมากกว่า รวมทั้งประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย รฟม.จะให้บีเอ็มอี ถอดเบาะที่นั่งต่อไป แต่หากผลประเมินปรากฏว่ามีผลเสียมากกว่า รวมทั้งประชาชนต่อต้าน ไม่เห็นด้วย รฟม.จะให้บีอีเอ็มยุติการถอดเบาะที่นั่งออก

“ต้นเดือนธ.ค.จะคุยกับบีอีเอ็ม เพื่อสรุปอีกครั้งว่าจะเดินหน้าหรือยุติการถอดเบาะ โดยจะยึดผลดีและความต้องการประชาชนผู้ใช้บริการเป็นหลัก หากประชาชนเห็นด้วยว่าถอดเบาะมีประโยชน์กว่า รฟม.จะให้ บีอีเอ็มดำเนินการถอดเบาะที่นั่งขอรถไฟฟ้าใต้ดินทั้ง 19 ขบวน เพราะมองว่าถอดขบวนเดียวรองรับประชาชนเพิ่มขึ้นไม่ได้ ไม่มีประโยชน์ หากเป็นประโยชน์จริงควรถอดทั้ง 19 ขบวน เพราะจะรองรับคนได้เพิ่มประมาณ 1,700 คน แต่หากประชาชนไม่เห็นด้วยเราจะสั่งให้ บีอีเอ็มยกเลิกการถอดเบาะ” นายรณชิต กล่าว

รักษาการรองผู้ว่ารฟม. กล่าวว่า เบื้องต้นเร่งรัดให้บีอีเอ็มนำเข้าขบวนรถไฟฟ้าจำนวน 7 ขบวน เพื่อให้สามารถนำมาให้บริการผู้โดยสารได้เพียงพอต่อความต้องการ บีอีเอ็มชี้แจงว่าภายในสิ้นปี 2561 จะนำเข้ารถได้จำนวน 1 ขบวน และต้นปี 2562 นำเข้าได้อีก 3 ขบวน จากนั้นจะนำมาทดลองวิ่ง คาดว่าจะนำรถทั้งหมด 4 ขบวนมาวิ่งให้บริการเพิ่มเติมได้ช่วงมี.ค. 2562 คาดว่าจะรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มอีกขบวนละ 800-900 คน หรือรองรับได้เพิ่มขึ้นรวมประมาณ 3,200-3,600 คน

“บีอีเอ็มรับปากว่าต้นปี 2561 จะเร่งรัดนำเข้ารถไฟฟ้ามา 1 ขบวนก่อน โดยจะนำเข้าเร่งด่วนมาทางเครื่องบิน ส่วนอีก 3 ขบวนจะนำเข้ามาทางเรือจะมาถึงช่วงต้นปี 2562 จากนั้นต้องนำรถทั้งหมดมาทดลองวิ่งก่อน คาดว่าจะนำรถทั้ง 4 ขบวนมาให้บริการจริงได้ประมาณเดือน .ค.-เม.ย. 2562” นายรณชิต กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน