เมื่อวันที่ 25 พ.ย. พ.ต.อ.เสถียร บุญชื่น ผกก.สภ.ภ.จว.สกลนคร พร้อมชุดสืบสวน ประกอบด้วย ร.ต.อ.ประภาส สุธรรม ร.ต.อ.สุรสาร คำสงค์ ร.ต.ท.สุขสันต์ จันทะเมนชัย ร.ต.ท.สุรพิน พรหมดิเรก รองสว.สส. ด.ต.วัชรพล มณีปกรณ์ ด.ต.ดิน บุตรสานาม จ.ส.ต.ไพฑูรย์ เฟมไธสง ส.ต.ต.วสัน เศษสุวรรณ์ ส.ต.ต.วุฒินันท์ เดชแพง ผบ.หมู่งานสืบสวน ร่วมกันทำการจับกุม นางจอมทรพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตครูใน จ.สกลนคร ตามหมายจับศาลอาญา จังหวัดนครพนม ในข้อหาร่วมกันนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในข้อสำคัญในคดี ในการพิจารณาคดีอาญา และซ่องโจร โดยจับกุมได้ที่บ้านพักเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ทั้งนี้หลังศาลจังหวัดนครพนมได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาไปแล้ว เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่ ผบก.ภ.จว.นครพนม จะสั่งรื้อขบวนการผู้อยู่เบื้องหลังรับจ้างผิดแทนครูจอมทรัพย์ กระทั่งคณะทำงานชุดดังกล่าวรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกผู้ต้องหาประกอบด้วย นายสับ วาปี วัย 61 ปี นายเลิศ วาปี อายุ 66 ปี นายบุญเทิง วาปี อายุ 63 ปี พี่ชายนายสับ และนางจัน วาปี อายุ 59 ปี ภรรยานายสับ ที่เดินทางมามอบตัวแล้ว

ซึ่งยังเหลือผู้ต้องหาตามหมายเรียกอีก 3 คนคือ นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง และนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ วัย 61 ปี และนายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร สามีครูจอมทรัพย์ ภายหลังนายสับ มอบตัวแล้วสารภาพว่า ครูอ๋องเป็นผู้ว่าจ้างเป็นเงิน 4 แสนบาท ให้ตนรับสารภาพผิดแทนครูจอมทรัพย์

ต่อมาวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายสับ ไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพภายหลังครูอ๋องนำเงิน 1.7 แสน ซึ่งอาจเป็นเงินของครูจอมทรัพย์ ให้นายสับเพื่อจ่ายเยียวยาให้ญาติผู้ถูกรถชนเสียชีวิตที่ศาลจังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 23 พ.ย. กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายประชุมร่วมกับตำรวจชุด สส.ภ.4 รวบรวมพยานหลักฐานชัดเจน นำไปสู่การยื่นขออนุมัติหมายศาลจับกุมนางจอมทรัพย์ และครูอ๋อง

โดยพนักงานสอบสวนชุดใหญ่รวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นต่อศาลจังหวัดนครพนม ขออนุมัติหมายจับนางจอมทรัพย์ และนายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง และศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 2 รายแล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังศาลจังหวัดนครพนมได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งคู่แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ทันที เนื่องจากคดีที่ออกหมายจับนางจอมทรัพย์กับนายสุริยา หรือครูอ๋อง ในวันนี้เป็นคดีอาญาข้อหา 2 ใน 7 ข้อหาหนักคือ อั้งยี่ซ่องโจรและเบิกความเท็จต่อศาล โดยไม่ต้องออกหมายเรียกแต่อย่างใด

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน