เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ขณะนี้ยังคงวิกฤตหนัก เนื่องจากน้ำเหนือจากจังหวัดยะลายังคงไหลลงมาสมทบในแม่น้ำปัตตานีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ระดับน้ำยังคงสูงขึ้นและไหลเชี่ยวกรากอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานจากเขื่อนจังหวัดปัตตานีว่า ระดับน้ำล้นออกจากสปริงเวย์ มีความสูงกว่า 15 เซนติเมตร ซึ่งส่งผลให้อำเภอที่อยู่ใกล้เคียง ทั้งอำเภอยะรัง และอำเภอแม่ลาน ในหลายหมู่บ้าน ถูกน้ำเข้าท่วมสูง มวลน้ำดังกล่าวได้ไหลลงเข้าสู่แม่น้ำปัตตานี ซ้ำเข้าไปอีก ทำให้ในหลายหมู่บ้านที่อยู่ติดกับแม่น้ำปัตตานี ระดับน้ำสูงขึ้นและขยายวงกว้างเพิ่ม เป็น 11 อำเภอแล้ว
เช่นเดียวกับในพื้นที่ ม.8 บ้านปลีดอ ม.8 บ้านปะกาลีปูโระ ม.8 บ.ยือโม๊ะ ม.8 บ.ตาเนาะ ต.บาราเฮาะ อ.เมือง จ.ปัตตานีกว่า 300 หลังคาเรือนได้รับความเดือนร้อนจากระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร และบางพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่ม ระดับน้ำสูงถึง 2 เมตร ถนนทางเข้าหมู่บ้านไม่สามารถเข้าออกได้ ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทาง ส่วนผู้ที่ไม่มีเรือเลือกที่จะอยู่แต่ภายในบ้านเท่านั้น
โดยชาวบ้าน เปิดเผยว่า พื้นที่นี้น้ำเข้าท่วมเป็นวันที่ 3 แล้ว แต่ในวันนี้ระดับน้ำสูงขึ้นรวดเร็วมากและมีระดับน้ำสูงกว่าทุกวัน ทำให้ชาวบ้านหลายรายต้องซื้อข้าวสาร อาหารแห้งนำมาตุนไว้ เพราะจากการสังเกตสถานการณ์เชื่อว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นอีก และอาจจะต้องเผชิญกับน้ำท่วมหลายวัน นอกจากนี้ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบาราเฮาะ ว่า ขณะนี้มีชาวบ้านเดินทางเข้าไปรักษากับทางโรงพยาบาลกว่า 50 ราย โดยส่วนใหญ่พบว่าเป็นโรคน้ำกัดเท้า ซึ่งทางโรงพยาบาลนำเจ้าหน้าที่นำยาชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย เข้าไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในพื้นที่น้ำท่วมอีกด้วย
ด้านศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่มจังหวัดปัตตานี ประกาศเพิ่ม 11 อำเภอ เป็นพื้นที่ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในพื้นที่ติดแม่น้ำทั้ง 2 สาย คือพื้นที่ติดแม่น้ำปัตตานี 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.หนองจิก อ.ยะรัง อ.โคกโพธิ์ อ.แม่ลาน อ.ยะหริ่ง และพื้นที่ติดกับแม่น้ำสายบุรี 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.สายบุรี อ.ไม้แก่น อ.ปะนาเระ อ.มายอ และ อ.ทุ่งยางดง หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 73 ตำบล 344 หมู่บ้าน บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย 8,956 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 14,625 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 รายขณะที่โรงเรียนในพื้นที่เขตการศึกษาทั้ง 3 เขต ต้องหยุดเรียน 7 โรง
