เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 23 ต.ค. ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้ามาถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามสมุดหลวงเพื่อถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เป็นวันที่ 9 ตั้งแต่เวลา 08.04 น. โดยมีประชาชน คณะบุคคลต่างแต่งกายด้วยชุดสีดำไว้ทุกข์ทยอยเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว โดยประชาชนเดินเข้าทางประตูวิเศษไชยศรีต่อแถวเรียง 4 เข้ามาอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดให้ประชาชนเข้ามาภายในศาลาสหทัยสมาคมประมาณรอบละ 70 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้าศาลาสหทัยสมาคมสำนักพระราชวังได้กางเต็นท์ ไว้เพื่อให้ประชาชนได้มีที่หลบแดดและฝน นอกจากนี้ ยังมีหน่วยกู้ชีพ นักศึกษาจิตอาสา ลูกเสือและเนตรนารีอาสาสมัครมานำรถเข็นมาดูแลผู้สูงอายุ รวมทั้งการให้บริการน้ำดื่มฟรี แม้อากาศจะร้อนอบอ้าว แต่พสกนิกรทุกหมู่เหล่าต่างเดินทางมาถวายความอาลัย แสดงออกถึงความจงรักภักดีที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอย่างต่อเนื่อง
ส่วนบรรยากาศรอบพระบรมมหาราชวัง ผู้สื่อข่าวรายงานมีประชาชนแต่งกายชุดดำไว้ทุกข์ ทยอยเดินทางเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ซึ่งท้ายแถวยาวเข้าไปเกือบครบหนึ่งรอบท้องสนามหลวง โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ประชาสัมพันธ์ระเบียบการแต่งกายและข้อปฏิบัติสำหรับผู้ที่จะเข้าไปในพระบรมมหาราชวัง
สำหรับการรักษาความปลอดภัยในวันนี้ยังคงมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกระจายกำลังคอยดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกผู้มาร่วมงานอย่างเข้มงวดรอบพระบรมมหาราชวังและท้องสนามหลวง รวมถึงยังมีการจัดทำบัตรคิวสำหรับประชาชนที่ต้องการเข้าถวายสักการะพระบรมศพเหมือนเช่นเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีวีลแชร์ไว้บริการสำหรับผู้สูงอายุและบุคคลที่ไม่สามารถเดินได้สะดวก โดยจะมีน้องๆ อาสาสมัครคอยช่วยเหลือด้วย
นางจุติ เปลี่ยวจิตร์ อายุ 60 ปี เดินทางมาพร้อมลูกสาวและหลาน เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาจากนนทบุรี ออกจากบ้านตั้งแต่ 05.00 น. มาถึงที่สนามหลวง 06.40 น. แต่เพิ่งจะได้เข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ในช่วง 09.20 น. ครอบครัวเรามีความตั้งใจมาถวายความอาลัย แม้จะร้อนหรือต่อแถวนานแค่ไหนก็ตั้งใจมากันอยู่แล้ว
“ครอบครัวเรานำพระราชดำริของพระองค์ท่านเป็นแบบอย่าง ทุกคนต้องตั้งใจเรียน หรือทำงานให้เต็มที่ สอนลูกสอนหลานให้ประหยัดอดออม ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งโครงการของพระองค์ท่านที่มีนับพันโครงการ พวกเราน้อมนำสิ่งที่พระองค์ท่านสอนมาปฎิบัติในชีวิตประจำวันเสมอ” นางจุติ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่การจราจรโดยรอบสนามหลวงเจ้าหน้าที่ ได้ปิดการจราจรถนน 27 เส้นทางเต็มรูปแบบเป็นวันที่ 2 โดยจะปิดตั้งแต่วันที่ 22-24 ต.ค. เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่จะเข้ามาสักการะพระบรมศพในช่วงวันหยุด สำหรับ 27 เส้นทาง มีดังนี้ 1.ถนนหน้าพระลาน ตลอดสาย 2.ถนนหน้าพระธาตุ ตลอดสาย 3.ถนนราชดำเนินในจากแยกผ่านพิภพ ถึง แยกป้อมเผด็จฯ 4.ถนนสนามชัย จากแยกป้อมเผด็จ ถึง หน้า สน.พระราชวัง 5.ถนนหับเผย 6.ถนนหลักเมือง 7.ถนนกัลยาณไมตรี ถึง สะพานช้างโรงสี 8.ซอยสราญรมย์ 9.ถนนพระจันทร์ 10.ถนนมหาราช ตลอดสาย
11.ถนนท้ายวัง ตลอดสาย 12.ถนนเชตุพน 13.ถนนเศรษฐการ 14.ถนนเจริญกรุง จาก วงเวียน รด. ถึง แยกสะพานมอญ 15.ถนนพระพิพิธ 16.ถนนราชดำเนินนอก จาก แยก จปร. ถึง แยกผ่านฟ้า 17.ถนนนครสวรรค์ จาก แยก จักรพรรดิพงษ์ ถึง แยกผ่านฟ้า 18.ถนนหลานหลวง จาก แยกหลานหลวง ถึง แยกผ่านฟ้า 19.ถนนราชดำเนินกลาง (ตลอดสาย) 20.ถนนพระสุเมรุ จากแยกวันชาติ ถึง แยกป้อมมหากาฬ 21.ถนนมหาชัย จากแยกสำราญราษฎร์ ถึง แยกป้อมมหากาฬ 22.ถนนดินสอ จากแยกวันชาติ ถึง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 23.ถนนดินสอ จาก อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถึง แยกมหรรณพ 24.ถนนตะนาว จาก แยกตัดถนนข้าวสาร ถึง แยกคอกวัว 25.ถนนตะนาว จาก แยกศาลเจ้าพ่อเสือ ถึง แยกคอกวัว 26. ถนนจักรพงษ์ จาก แยกตัดถนนข้าวสาร ถึง ถนนราชดำเนินกลาง 27. ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้าจากแยกอรุณอัมรินทร์ ถึง แยกผ่านพิภพ
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ ขอแนะนำให้ใช้เส้นทางเลี่ยง เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ดังนี้ 1.กรณีรถที่มาจากทางด่วนยมราชให้ใช้เส้นทาง ถนนพิษณุโลก 2.กรณีที่ใช้รถบนทางพิเศษ (เนื่องจากทางลงทางด่วนยมราชการจราจรหนาแน่นมาก) – ที่มาจากแจ้งวัฒนะจะไปทางงามวงศ์วาน ให้ซ้ายออกคู่ขนานตรงทางด่วนประชาชื่น เพื่อออกไปทางถนนรัชวิภา และถนนวิภาวดี – ที่มาจากทางด่วนประชาชื่นลงทางด่วนพระราม 6 – ที่มาจากทางด่วนมักกะสันให้ลงทางด่วนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – ที่มาจากทางด่วนพระราม 4 ให้ลงทางด่วนหัวลำโพง – ที่มาจากต่างระดับศรีนครินทร์ให้ลงด่วนพระราม 9 และใช้ทางพื้นราบ
3.กรณีมาจากคู่ขนานขาเข้า ให้ใช้ถนนสิรินธร –บางพลัด – สะพานกรุงธน(ซังฮี้) 4.กรณีประชาชนจากฝั่งธนบุรีที่จะเข้ามาร่วมงานพระราชพิธีฯ ขอให้ใช้บริการเรือข้ามฝากมา ท่าพระจันทร์ และท่าช้าง
ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) จึงขอประชาสัมพันธ์ให้สื่อมวลชนและประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกันเพื่อประกอบในการวางแผนการเดินทาง หากต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทางและข้อมูลสภาพจราจรเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) หมายเลขโทรศัพท์ 1197 หรือ WWW.TRAFFICPOLICE.GO.TH
