สืบ5 บุกรวบ แม่ค้าออนไลน์-เจ้าของร้านนวด สวม อย. หลอกขาย ชุดตรวจโควิด ยึดของกลาง 2,000 ชิ้น คาลานจอดรถห้างดังย่านบางนา เจ้าตัวรับสารภาพ

วันที่ 17 ส.ค.2564 พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 สั่งการให้ พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.กก.สส.บก.น.5 พร้อมด้วย พ.ต.ต.บุรินทร์ กะปิตถา สว.กก.สส.บก.น.5 นำกำลังตำรวจ กก.สส.บก.น.5 จับกุม น.ส.อลิษา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี และ นายปวัน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาสวมใบอนุญาตบริษัทอื่น ขายชุดตรวจโควิด-19 ATK

พร้อมตรวจยึดของกลาง อุปกรณ์ทางการแพทย์ (ที่ตรวจโควิด-19 ATK) จำนวน 2,000 ชิ้น โดยสามารถจับกุมได้บริเวณลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.30 น.

สืบ5 บุกรวบ แม่ค้าออนไลน์-เจ้าของร้านนวด สวม อย. หลอกขาย ชุดตรวจโควิด ยึดของกลาง 2,000 ชิ้น

สืบ5 บุกรวบ แม่ค้าออนไลน์-เจ้าของร้านนวด สวม อย. หลอกขาย ชุดตรวจโควิด ยึดของกลาง 2,000 ชิ้น

สืบเนื่องจากตำรวจ กก.สส.บก.น.5 สืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาคู่นี้ มีพฤติกรรมจำหน่ายที่ตรวจโควิด-19 ATK โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงวางแผนจับกุม เมื่อเดินทางไปถึงที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าดังกล่าว พบผู้ต้องหามีตำหนิรูปพรรณ ตามแนวทางการสืบสวนยืนอยู่ จึงแสดงตัวขอทำการตรวจค้น การตรวจค้นพบของกลางดังกล่าว จึงควบคุมตัวสอบสวนที่กก.สส.บก.น.5

จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การยอมรับสารภาพว่า ทั้งสองเป็นเพื่อนที่รู้จักกัน โดยนายปวัน เป็นเจ้าของกิจการร้านนวดแผนไทย ส่วนน.ส.อลิษา เป็นแม่ค้าขายเครื่องสำอางออนไลน์ ซึ่งชุดตรวจโควิด-19 จำนวน 2,000 ชิ้นนี้ได้ติดต่อซื้อขายกับชายชาวจีนที่ถือสัญชาติไทยรายหนึ่ง และรับมาในราคาชิ้นละ 180 บาท ก่อนนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้า ชิ้นละ 280-290 บาท ส่วนเงินที่ได้มาใช้จ่าย

ของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดได้

ของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดได้

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งสองรับว่าทำเป็นเพียงครั้งแรก แต่จากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาเคยแอบอ้างไว้ก่อนหน้านี้ว่ามีสินค้านับหมื่นชิ้น แต่จำหน่ายไปบ้างแล้ว หากทางลูกค้าจะสั่งจำนวนมากกว่านี้สามารถติดต่อสั่งเพิ่มได้ จึงเชื่อว่ามีเหยื่อที่หลงเชื่ออีก

โดยการจำหน่ายทุกครั้งฝ่ายชายจะเป็นผู้ติดต่อซื้อสินค้ามาให้ฝ่ายหญิงโพสต์ขายผ่านทางเฟซบุ๊กที่มีผู้ติดตามจำนวนมากอยู่แล้ว หนำซ้ำยังมีการนำภาพจากเว็ปไซด์ของ อย. ที่มีการระบุถึงผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายยี่ห้อดังกล่าว ได้ผ่านการตรวจจากทาง อย.แล้ว ซึ่งผลิตภัณฑ์ในภาพนั้นเป็นของบริษัทอื่น ที่ได้รับการตรวจจาก อย.แล้วจริง จนทำให้ได้รับความเสียหายไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ตำรวจต้องทำการสืบสวนขยายผลอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันขายเครื่องมือแพทย์ไม่เป็นไปตามมาตรา 6(10) ประกอบมาตรา 43 วรรคหนึ่ง ตามพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พุทธศักราช 2551” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางนา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน