กฤษณะ ลั่น ห้ามไม่ฟังจำเป็นต้องใช้จีโน่สลายม็อบ ชี้ยั่วยุ ปาระเบิดปิงปอง

รองโฆษก ตร.ชี้แจงจำเป็นต้องฉีดน้ำใส่ม็อบสาดสีหน้า ตร.เพื่อความสงบเรียบร้อย หลังประกาศให้เลิกแต่ไม่เลิก จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย

วันที่ 17 ส.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สรุปสถานการณ์การชุมนุมทำกิจกรรมของกลุ่มทะลุฟ้าว่า ได้เริ่มรวมตัวกันเวลา 15.00 น.บริเวณสี่แยกราชประสงค์ต่อมาได้เดินทางมาด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ตร.) และทำกิจกรรม โดยเจ้าหน้าที่ประกาศให้ทราบว่าการทำกิจกรรมดังกล่าวผิดกฏหมาย แต่ผู้ชุมนุมไม่เชื่อฟังและยังมีการโยนถุงสีเข้ามาด้านในและขว้างปาสิ่งของใส่ รวมทั้งขว้างระเบิดปิงปองเข้ามาในรั้ว

เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฏหมาย โดยใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดเข้าใส่ผู้ชุมนุม ขณะนี้ผู้ชุมนุมได้แตกกระจายไป 2 ส่วน โดยส่วนหนึ่งได้แยกย้ายไปรวมกันแยกเฉลิมเผ่า อีกบางส่วนได้แยกย้ายไปที่แยกราชประสงค์ โดยตำรวจได้ดำเนินการผลักดันและวางกำลังนอกแนวรั้วของ ตร.เพื่อดูแลให้เกิดความเรียบร้อยมากที่สุด

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อยตำรวจต้องทำการบังคับใช้กฏหมายเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยและให้ผู้ชุมนุมยุติกิจกรรมและเดินทางกลับบ้าน ส่วนที่ผู้ชุมนุมอ้างว่า การดำเนินการของตำรวจไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากลนั้น ระบุว่า ส่วนตัวไม่ทราบว่าผู้ชุมนุมใช้มุมไหนมอง แต่ยืนยันว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการกับผู้ชุมนุมที่เดินทางมาด้านหน้า ตร. มีการยั่วยุตำรวจ ขว้างปาสี ระเบิดปิงปองและสิ่งของเข้ามาในรั้ว ตำรวจเองได้มีการประกาศให้เลิกแต่ไม่ยอมเลิก หากปล่อยให้กระทำการซ้ำไปมากกว่านี้ตำรวจคงไม่สามารถบังคับใช้กฏหมาย และรักษาความสงบเรียบร้อยได้ ซึ่งตำรวจจำเป็นต้องบังคับใช้กฏหมาย

“ส่วนตัวก็ยังไม่เห็นว่าไม่เป็นธรรมตรงไหนเลย เพราะปกติตำรวจรักษาการณ์อยู่ภายในรั้วมาตั้งแต่บ่าย หากผู้ชุมนุมทำกิจกรรมชุมนุมโดยสันติ ไม่ทำร้ายเจ้าหน้าที่หรือทำลายสิ่งของเสียหาย ก็คงไม่มีการบังคับใช้กฏหมายลักษณะแบบนี้แน่นอน”