กองปราบ บุกรวบ 18มงกุฎ ตุ๋นขายโควตาหวย เหยื่อสูญ 27 ล้าน หลังหนีกบดานที่ จ.เชียงใหม่ พบประวัติติดตัวเพียบ เคยตัดกำไลอีเอ็มหนีมาแล้ว
วันที่ 24 ส.ค.2564 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ต.กรพงศ์ วงษาลังการ สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายนรินทร์วุฒิ (ขอสวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 185/2563 ลงวันที่ 1 ก.ค.2564
ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันปลอมแปลงเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการและใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารสิทธิปลอม” และ หมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ข้อหา “ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น” อีก 2 หมาย ได้บริเวณริมถนนท่าตอน-ฝาง ต.มะลิกา อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
กองปราบ บุกรวบ 18มงกุฎ ตุ๋นขายโควตาหวย เหยื่อสูญ 27 ล้าน หลังหนีกบดานที่ จ.เชียงใหม่ พบประวัติติดตัวเพียบ
สืบเนื่องจากเมื่อเดือนต.ค.2562 นายนรินทร์วุฒิ อ้างกับผู้เสียหายว่า สามารถจัดหาโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลมาขายได้ ในราคาเล่มละ 7,040 บาท ผู้เสียหายสนใจจึงชักชวนเพื่อนและเครือญาติมาร่วมกันลงทุนซื้อ ผู้ต้องหาได้พากลุ่มผู้เสียหายไปที่สำนักงานสลากกินแบ่งเพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ จนตกลงซื้อขายสลากและโอนเงินให้ผู้ต้องหารวมเป็นเงิน 27,519,520 บาท แต่เมื่อถึงกำหนดนัดรับสลากกลุ่มผู้เสียหายได้รับสลากไม่ครบตามจำนวนที่ตกลง โดยผู้ต้องหาอ้างว่าให้รออีกวันสองวัน
หลังจากนั้น ผู้ต้องหามีการผัดผ่อนเรื่อยมา เมื่อผู้เสียหายเร่งทวงถาม ผู้ต้องหาจึงให้ทำเป็นสัญญากู้ยืมเงิน โดยผู้ต้องหาออกเช็คสั่งจ่าย 7,040,000 บาท แต่เมื่อครบกำหนดปรากฏว่าธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน ผู้เสียหายจึงไปแจ้งความดำเนินคดีที่สน.ลาดพร้าว ต่อมาศาลอนุมัติออกหมายจับและสามารถจับตัวนายนรินท์วุฒิได้ ภายหลังได้ขอประกันตัวและศาลอนุญาตให้ประกันพร้อมติดกำไล EM
จากนั้น ผู้ต้องหาได้ตัดกำไลออกและหลบหนีไป กระทั่งตำรวจกองปราบสืบทราบว่าผู้ต้องหาหนีไปกบดานใน จ.เชียงใหม่ และยังพบว่าเคยก่อเหตุซ้ำ ๆ ในลักษณะเดียวกัน และถูกดำเนินคดีอีกนับสิบคดี มีผู้เสียหายจำนวนมาก เบื้องต้นสอบสวน นายนรินท์วุฒิ ให้การรับสารภาพ จึงนำตัวส่งศาลอาญา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
