ศุลกากรพบ ‘ผกก.โจ้’ เป็นเจ้าของสำนวนคดีนำส่งรถถึง 368 คัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554-2560 ขายทอดตลาดไปแล้ว 363 คัน ยังขายไม่ออก อีก 5 คัน แจงปมเงินค่านำจับ

เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 64 นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ถึงการตรวจสอบกรณีรถหรูของพ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผกก.โจ้ ว่า

จากการตรวจสอบการครอบครองรถหรูของพ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือผกก.โจ้ พบตั้งแต่ปี 2554-2560 พ.ต.อ.ธิติสรรค์เป็นเจ้าของสำนวนคดีนำจับ 368 คัน โดยพบขายทอดตลาดไปแล้ว 363 คัน และยังขายไม่ออก อีก 5 คัน

ส่วนกระแสข่าวที่ว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ครอบครองรถหรูถึง 29 คันนั้น จากการตรวจสอบการครอบครองรถหรูที่ไม่ใช่รถตลาดทั่วไปมี 10 คัน และมีเพียง 1 คันที่เป็นรถการประมูล เสียภาษีปกติ 2 คัน จากทั้งหมด 29 คันตามที่เป็นข่าวออกมา

นายพชร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่าในการของครอบครองของพ.ต.อ.ธิติสรรค์ อีก 13 คัน ซึ่ง 5 คันนำเข้าผ่านศุลกากรปกติ และอีก 2 คันมาจากการขายทอดตลาด โดยระเบียบกรมศุลกากร หากตำรวจจับได้แล้วนำส่ง ตามกระบวนการแล้วจะขายทอดตลาดเงินส่วนหนึ่งจะแบ่งเป็นเงินค่ารางวัลนำจับ ค่าสายข่าว เมื่อคดีสิ้นสุดจะนำมาประมูลขาย โดยต้องบอกว่าตามกฎหมายเก่า กฎหมายการประมูลนี้แบ่งเป็น 2 ช่วง คือช่วงก่อนปี 2560 จะมีเงินรางวัลปรากฏอยู่ในระเบียบ จริงๆ ไม่ได้ใช้เฉพาะกับรถยนต์แต่ใช้กับทุกประเภทสินค้า

ซึ่งก่อนช่วงปี 2560 สินบน 30% เงินรางวัล 25% ด้วยอัตราที่สูงถึง 55% อาจทำให้เกิดการกระทำอย่างอื่นตามมา ดังนั้นหลังปี 2560 จึงกำหนดอัตรารางวัลที่ 20% สินบน 20% ต่อ 1 คดีไม่เกิน 5 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน