รองผบ.ตร. เผยความคืบหน้าคดี ผกก.โจ้ ชี้ จากคลิปยังไม่มีหลักฐานชี้ว่าเรียกรับเงิน รวมทั้งพยานไม่บ่งชี้ ลั่นปมอ้างว่า ไม่ตั้งใจให้ถึงตาย แต่การกระทำเล็งเห็นผล

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 ส.ค.64 ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดี หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และ ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา รองสว.(ป.)สภ.เมืองนครสวรรค์ ตลอดทั้งคืน

พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า วันนี้จะมีการสอบสวนผู้ต้องหาเพิ่มเติมให้ได้ประเด็นครบทุกประเด็น ที่สังคมสงสัย รวมถึง สอบทุกให้ครบทุกปาก ก่อนที่จะนำตัวทั้งสองฝากขังในช่วงบ่าย หรือหากยังมีข้อสงสัยที่ต้องสอบเพิ่ม ก็จะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ ซึ่งทิศทางการสอบปากคำเป็นไปด้วยดี เพื่อให้เกิดความยุติธรรม อีกสักระยะจะส่งสำนวนไปให้ส่วนกลางเป็นผู้ดำเนินคดี เพื่อไม่ให้ประชาชนเคลือบแคลงสงสัย รวมถึงจะแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 157 ไปให้ศาลประพฤติมิชอบและทุจริตกลาง หรือที่ภาค 6

ส่วนประเด็นที่มีการเรียกรับผลประโยชน์นั้น ที่มีการรับเงิน 1 ล้านบาท ในคลิปวงจรปิดฉบับเต็มที่ตำรวจมี เมื่อตรวจสอบแล้วยังไม่หลักฐานที่บ่งชี้ได้ว่ามีการพูดเรียกรับผลประโยชน์ รวมถึงการสอบพยานก็ยังไม่พบประเด็นนี้ ซึ่งสิ่งที่ตรวจสอบในคลิป ก็ไม่แตกต่างจากที่มีการเผยแพร่ในโลกออนไลน์ แต่ก็ไม่ได้หยุดนิ่งที่จะขยายผล เพราะเป็นประเด็นที่ค้างคาใจอยู่ แต่ในข้อเท็จจริง จะไปกล่าวหาหรือยัดเยียดข้อกล่าวหาไม่ได้

นอกจากนี้ ประเด็นที่ ผกก.โจ้ อ้างว่า ลูกน้องได้ห้ามแล้ว และขอรับผิดคนเดียวนั้น จากการตรวจสอบในคลิป เสียงช่วงดังกล่าวก็ยังไม่ชัดเจน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า การห้ามจะช่วยบรรเทาโทษได้

ทั้งนี้ เมื่อคืนมีการสอบปากคำ ผู้กำกับโจ้ ก็ยังให้การเหมือนกับที่ให้สัมภาษณ์สื่อ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่การอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจทำให้เสียชีวิตนั้น เคยมีคำพิพากษาศาลฎีกา ในลักษณะเดียวกันว่า ถุงห้ามนำมาครอบศีรษะ ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำที่เล็งเห็นผล

สำหรับที่เมื่อวานนี้ ระหว่างแถลงว่า ตนเองได้ตัดบทในระหว่างการสัมภาษณ์ เป็นการช่วยเหลือผู้ต้องหาหรือไม่ เนื่องจากมองว่า รอง ผบ.ตร. เช่นนั้นแล้ว คุณจะให้สื่อเป็นศาลเตี้ยใช่หรือไม่ สื่อคือศาลหรือ และให้การไปแล้ว ตกลงต้องขึ้นศาลหรือไม่ แล้วแต่ความคิดของประชาชน ไปห้ามไม่ได้ พร้อมระบุว่า การยึดถือหลักการข้อกฎหมาย เป็นเรื่องสำคัญ

ส่วนกรณีของรถทุกคันที่ใช้ในการหลบหนี หรือพาหลบหนี ตำรวจมีข้อมูลรถทุกคันแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ รายละเอียดอยู่ในสำนวน

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันไม่มีการช่วยเหลือ เพราะไม่มีใครจะเอาตัวเอง และคณะเข้าคุกเข้าตารางไปด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน