รองผบ.ตร.เผยพ่อเหยื่อผกก.โจ้ ไม่พบความผิด แจงปมวงจรปิดจุดรับมอบตัวหน้า สภ.แสนสุข ถามกลับเกี่ยวข้องกับคดีนี้​อย่างไร​ เป็นเหตุการณ์มอบตัว​

เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 27 ส.ค.64 พล.ต.อ.สุชาติ​ ธีระสวัสดิ์​ รอง​ผบ.ตร​ ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวน​ กล่าวภายหลังการประชุมสรุปสำนวนคดีพ.ต.อ.ธิติสรรค์​ อุทธนผล​ หรือ​อดีตผกก.โจ้​ กับพวกว่า​ พนักงานสอบสวน
ยังไม่แจ้งข้อหาเพิ่ม​ กับผู้ต้องหา ​7​ คน​ แต่จะดูสำนวนให้รอบคอบ​ โดยเฉพาะ​​ข้อหา​ ม.157 ซึ่งสำนวนคดีเตรียมโอนให้กองปราบ​ปราม​ เพื่อให้ความเชื่อมั่น​

เมื่อถามว่าคดีนี้อาจมีผู้ต้องมากกว่า ​7​ คน​หรือไม่​ รอง​ผบ.ตร​ กล่าวว่า​ ข้อมูลตอนนี้มีมากกว่า ​7​ คน​ แต่ยังไม่ชัดเจน​ กลุ่มต้องหากลุ่มใหม่นี้​ ไม่พ้น​ชุด​ 05​ หรือ​ทีมปราบปรามยาเสพติด​ของนครสวรรค์​ แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนได้​ กลุ่มนี้มีพฤติการณ์ล่อซื้อยาเสพติด​ มีหลักฐานบันทึกประจำวัน​ มีการล่อซื้อลงเลขธนบัตร​ เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวน​จะต้องแยกพฤติกรรม​ว่า​เป็นแบบไหน​ ว่าการล่อซื้อกระทำโดยสุจริต​ ต้องแยกแยะ​ ตอนนี้รายละเอียดอยู่ในสำนวน​

พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการ​สอบ​ทีมคณะแพทยที่ทำการชันสูตร​​ ที่ระบุการเสียชีวิตจากพิษยาเสพติด​นั้น ​การสอบปากคำ​แพทย์ที่ตรวจ​ยืนยันว่า ผู้ตายมาถึงที่รพ.​ในภาวะชีพจรอ่อน​ เจ้าหน้าที่ปั๊มหัวใจ​แล้วชีพจรกลับมา​ แต่อยู่ได้ไม่นาน​ หมายความว่า​ตอนนั้นเขาอาจจะยังไม่เสียชีวิต​ ต้องสอบสวนให้ชัดเจนเสียก่อน​

ส่วนการสอบปากคำพ่อของผู้เสียชีวิตนั้น​ ตอนนี้ให้ความร่วมมือ​ แม้ก่อนหน้านี้มีความเข้าใจผิดจาก​พฤติการณ์​ของพ.ต.อ.ธิติสรรค์ ​ที่เข้าไปแสดงมิตรภาพ​ และกระทำไม่เหมือนว่าทำลูกเขาเสียชีวิต​ โดยขณะนี้พ่อยังไม่กระทำผิด

ส่วนกรณีที่​มีสื่อนำเสนอว่ากล้อวงจรปิด​ของ​สภ.แสนสุข​เสีย​เสีย​ จนไม่สามารถหารถสีขาวที่มาส่งพ.ต.อ.ธิติสรรค์ ตอนเข้ามอบตัวได้​ รอง​ผบ.ตร​. กล่าวว่า เกี่ยวข้องกับคดีนี้​อย่างไร​ เป็นเหตุการณ์มอบตัว​ การจะเอาผิด​ต้องดูว่าเขาจะช่วย​เหลือนำพาซ่อนเร้น ที่สื่อนำเสนอจะให้ไปเปิดอีกคดี​ คดีนี้จะเอาไว้ก่อน​ ส่วนที่จะทำควบคู่สื่อนั้น พูดง่าย​ อะไรที่เป็นข้อผิดกฎหมาย ​เจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการไม่ได้​ สื่อที่สงสัยว่า​ใครช่วยเหลือหรือไม่ ต้องไปดู

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน