ตร.นครสวรรค์ ยื่นฝากขัง ผกก.โจ้กับลูกน้อง ฆ่าถุงคลุมหัว ผู้ต้องหาคดียาฯ โดนเเจ้งข้อหาหนักร่วมฆ่าทารุณ โทษประหารชีวิต สอบสวนเบื้องต้นปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

เมื่อวันที่ 27 ส.ค.2564 ที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์ ถ.ไกรลาศ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรก พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อายุ 39 ปี หรือ “สารวัตรโจ้ หรือ ผกก.โจ้” ชาวกรุงเทพมหานคร อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เป็นจำเลยในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด,ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย,

ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ หรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมสิ่งนั้น โดยเป็นการฝากขังผ่านระบบการประชุมทางจอภาพ

ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

คำร้องฝากขังระบุ พฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2564 เวลากลางคืน ผู้ต้องหากับพวกเป็นตำรวจประจำ สภ.เมืองนครสวรรค์ ทำหน้าที่ประจำชุดปราบปรามยาเสพติด ร่วมกันจับกุมตัว นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ และ น.ส.กนกวรรณ หรือเฟิร์น คล้ายนิ่ม สองสามีภรรยา ที่ร่วมกันนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) คือยาไอซ์ จำนวน 3 ถุง น้ำหนักถุงละ 100 กรัม มาจำหน่ายให้กับสายลับของผู้ต้องหาที่ทำการล่อซื้อ

โดยจับกุมตัวได้ที่หน้าเซเว่นอิเลฟเว่น ตลาดนัดหน้าค่ายจิรประวัติ ต.นครสวรรค์ออก อ.เมือง จ.นครสรรค์ และตรวจยึดรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ขฉ 2905 ชัยนาท ต่อมาขณะที่นายจิระพงศ์ อยู่ในการควบคุมของผู้ต้องหากับพวก ผู้ต้องหากับพวกทราบว่านายจิระพงศ์ มียาบ้าไว้จำนวนมาก

ต่อมาวันที่ 5 ส.ค.2564 เวลากลางวัน ผู้ต้องหากับพวกประกอบด้วย พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล,พ.ต.ต.รวิโรจน์ ดิษทอง, ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค, ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา, ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว,ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น และ ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว ร่วมกันสอบเค้นหาที่ซ่อนยาเสพติดดังกล่าว

โดยใช้ถุงพลาสติกไม่มีช่องอากาศ ครอบศีรษะนายจิระพงศ์ ม้วนปิดปากถุงเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปในถุง ทำให้นายจิระพงศ์ หายใจไม่ออก พยายามดิ้น ผู้ต้องหากับพวกดังกล่าวร่วมกันจับลำตัว แขนนายจิระพงศ์ เพื่อไม่ให้ขัดขืน การกระทำของผู้ต้องหากับพวก ทำให้นายจิระพงศ์ ขาดอากาศหายใจ หมดสติ และถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ส่วนยาเสพติดที่ล่อซื้อได้ไม่ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี และได้ปล่อยตัว น.ส.กนกวรรณ หรือ เฟิร์น คล้ายนิ่ม กับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ขฉ 2905 ชัยนาทไป

การที่ผู้ต้องหากับพวกให้สายลับล่อซื้อยาเสพติด จนจับกุมนายจิระพงศ์ กับ น.ส.กนกวรรณได้พร้อมยาเสพติด เป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่การที่ใช้วิธีบังคับที่เป็นอันตรายต่อชีวิต เพื่อขยายผลเครือข่ายยาเสพติดเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และเมื่อผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย ผู้ต้องหากับพวกไม่ส่งยาเสพติดที่ล่อซื้อได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

หลังเกิดเหตุ มารดาผู้ตายได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เมื่อพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลจังหวัดนครสวรรค์ออกหมายจับ ซึ่งศาลอออกหมายจับเลขที่ 183/2564 ลงวันที่ 25 ส.ค.2564 จากนั้นเมื่อ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ผู้ต้องหาทราบว่ามีหมายจับ ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขอมอบตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา

เหตุเกิดที่ ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2564 การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 289, 309 วรรคสอง
ท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนยังระบุว่า ได้สอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหามาจะครบ 48 ชั่วโมง แล้ว

แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา จึงขออนุญาตฝากขังมีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย. 2564 และขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ มีอัตราโทษสูง ประกอบกับผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำผิดเสียเอง

หากมีการปล่อยตัวชั่วคราวเกรวงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทั้งนี้ ประสงค์จะดำเนินการยื่นคำร้องฝากขัง โดยขอให้ศาลสอบถามผู้ต้องหา หรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาผ่านระบบการประชุมทางจอภาพในการฝากขังครั้งต่อไปทุกครั้งด้วย

ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้

นอกจากนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ยังยื่นฝากขัง ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา อายุ 55 ปี ตำรวจที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดในฐานความผิดเหตุการณ์เดียวกันกับ พ.ต.อ.พ.ต.อ.ธิติสรรค์ โดยในคำร้องฝากขังพนักงานสอบสวนคัดค้านประกันเช่นเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ต้องระวางโทษประหารขีวิต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน