แยกคดี ‘ผกก.โจ้’ 2 สำนวน กองปราบพบพิรุธปมจับรถหรู 300 คัน เร่งสอบมีเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ย้อนหลังกันอย่างละเอียด

เมื่อวันที่ 30 ส.ค.64 ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้าคดี “ผู้กำกับโจ้” พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมพวกรวม 7 คน ร่วมกันซ้อมทรมานผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต ว่า

ขณะนี้มีคำสั่งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้โอนคดีดังกล่าวมาอยู่ในความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปราม จึงเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนทั้งของกองปราบฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบให้ชัดเจน

พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นจะแบ่งสำนวนการสอบสวนออกเป็น 2 คดี คือ คดีซ้อมทรมานผู้ต้องหาจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ส่วนนี้กองปราบปรามฯ เป็นผู้รับผิดชอบ คดีที่ 2 การตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมทั้งที่ไปที่มาทรัพย์สินต่างๆ ของพ.ต.อ.ธิติสรรค์ ว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ ส่วนนี้มอบหมายให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เป็นผู้ดำเนินการ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวว่า ในส่วน บก.ปปป.ได้รับคำสั่งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ช่วยตรวจสอบคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เนื่องจากเป็นความผิดเกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 คือเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้หนึ่งผู้ใด ฯ

ซึ่งหลักๆ คงจะเข้าไปตรวจสอบกรณีรถหรูที่พ.ต.อ.ธิติสรรค์ จับกุมผู้ลักลอบนำเข้าจากมาเลเซีย และปั้นคดีว่าจับรถผิดกฎหมาย นำส่งกรมศุลกากร นำไปขายทอดตลาด จนได้เงินรางวัลนำจับ จากนั้นยังให้พรรคพวกในวงการรถหรู มาประมูลช้อนซื้อนำไปขายต่อเก็งกำไร ก็จะมาดูกันว่าการนำเข้าเป็นมาอย่างไรและมีใครเกี่ยวข้องอีกบ้าง

รายงานข่าวเผยว่า กรณีปมทุจริตจับรถหรู มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดพ.ต.อ.ธิติสรรค์ ถึงสามารถปั้นคดีจับรถหรู นำส่งให้กรมศุลกากรได้มากกว่า 300 คัน ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องตรวจสอบให้ชัดเจน ว่ามีเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยต้องตรวจสอบย้อนหลังอย่างละเอียด หากพบมีเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเกี่ยวข้อง จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน