ผลชันสูตรพลิกศพ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด เหยื่อ ผกก.โจ้ ใช้ถุงดำคลุมศีรษะ แพทย์ลงความเห็นเป็นเพราะขาดอากาศหายใจ ทำให้เสียชีวิต วันที่ 30 ส.ค.64 การผ่าพิสูจน์ศพเหยื่อ “ผู้กำกับโจ้” เป็นทางการของแพทย์โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ได้ผลชันสูตรแล้ว แจ้งให้พนักงานสอบสวนทราบ อยู่ระหว่างรอพนักงานสอบสวนเดินทางมารับผล ไปประกอบสำนวนสอบสวน และโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จะมีแถลงการณ์ ขั้นตอน และระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการส่งผลชันสูตรผลิกศพให้ทราบต่อไป พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. คณะทำงานพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า ผลชันสูตรศพฉบับเต็มถึงมือทีมพนักงานสอบสวนแล้ว เบื้องต้นแพทย์ลงความเห็นการเสียชีวิตของเหยื่อ ชี้ชัดว่าเกิดจากการขาดอากาศหายใจ ส่วนสารเสพติดก็พบมีอยู่บ้าง แต่สรุปภาพรวม ไม่ใช่สาเหตุการตายจากการเสพยาเสพติด ชัดเจนว่าขาดอากาศหายใจ ขณะนี้สอบพยานหลายปากแล้ว นอกจากนี้จะโอนคดีทั้งมดไปยังส่วนกลาง รวมถึงผู้ต้องหาด้วยจะต้องย้ายไปควบคุมตัวยังเรือนจำกลางต่อไป ตามขั้นตอนของกฎหมาย วันเดียวกัน ที่สำนักงานอัยการจังหวัดนครสวรรค์ นายสมพงษ์ เย็นแก้ว รองอธิบดีอัยการภาค 6 พร้อมคณะ พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ รองผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ทีมพนักงานสอบสวนในคดี แพทย์ผู้ชันสูตรศพ และฝ่ายปกครองโดยนายอำเภอเมืองนครสวรรค์ ร่วมประชุมหารือวางแนวทางการทำสำนวนคดี เพื่อให้เกิดความโปร่งใส โดยจะนำสำนวนคดี พร้อมผลชันสูตรที่ได้รับจากโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ มาประกอบสำนวนเพื่อวางแนวทางร่วมกัน โดยใช้เวลานานกว่า 40 นาที จากนั้นคณะรองอธิบดีอัยการภาค 6 เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุยังบ้านกาแฟ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ และจุดที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน ซึ่งเป็นตามกฎหมายที่ระบุว่าการชันสูตรผู้เสียชีวิตผิดธรรมชาติฝ่ายปกครอง อัยการ หมอ ตำรวจ จะต้องทำงานร่วมกัน นายสมพงษ์ เผยว่า การประชุมร่วมเป็นไปตามกฎหมาย ทั้งฝ่ายปกครอง แพทย์ พนักงานสอบสวนตำรวจ และอัยการ รวม 4 ฝ่าย ต้องทำร่วมกัน วันนี้จะเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุหลายจุดเพื่อนำมาสรุปร่วมกัน ส่วนการเสียชีวิตจะระบุสาเหตุว่าเกิดจากขาดอากาศ หรือสารเสพติด ต้องมีองค์ประกอบหลายด้าน ต้องไปตรวจที่เกิดเหตุและนำหลักฐานมาประมวลร่วมกับคลิปที่ปรากฏ พิจารณาร่วมกับความเห็นแพทย์ว่าสมองบวมลักษณะใด ต้องมีความเห็นหลายอย่างร่วมกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวพบว่า หลังจาก พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ผกก.โจ้ ใช้ถุงดำคลุมศีรษะ จนนายจิระพงษ์ นิ่งไป มีการสาดน้ำใส่ และ ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา ได้ทำ CPR ปั๊มหัวใจให้ผู้ต้องหา ก่อนในเวลา 13.30 น.วันที่ 5 ส.ค. จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลปากน้ำโพ (Princ) จากรายงานการสอบสวนพบว่า ขณะรถมาถึงโรงพยาบาล พบว่า ร.ต.ท.ธรณินทร์ กำลังปั๊มหัวใจนายจิระพงษ์ อยู่ด้วย และมีการนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน ซึ่งที่ห้อง ER แรกรับ คลำชีพจรไม่ได้ โดยมีเอกสารยืนยัน และพ.ต.อ.ธิติสรรค์ เป็นผู้ให้ข้อมูลกับทางโรงพยาบาล รวมเป็น 2 ครั้ง ระบุว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งไล่จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด (ไอซ์) นานประมาณ 10 นาที หลังจับกุมผู้ต้องหามีอาการวูบ หมดสติ ไม่หายใจ จึงนำส่งโรงพยาบาล” จากนั้น แพทย์ปั๊มหัวใจนานประมาณ 20 นาที จำนวน 2 นาทีต่อรอบ ประมาณ 10 รอบ จึงตรวจจับชีพจรได้ มีความดันเลือด 90/70, 88/44 แพทย์จึงให้ส่งต่อไปโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ เนื่องจากเป็นผล X-ray ปอดผิดปกติ, มีเลือดเป็นกรดสูง ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ รวมทั้งสาเหตุคนไข้หยุดหายใจ ผลวินิจฉัยแพทย์โรงพยาบาลปากน้ำโพ (Princ) ต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเป็นคดียาเสพติด จึงต้องให้โรงพยาบาลรัฐดำเนินการต่อไป โดยแพทย์โรงพยาบาลปากน้ำโพ (Princ) เป็นผู้ใช้สายยางสอดใส่เข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ เพื่อตรวจสารเสพติด ตามข้อมูลที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ให้ข้อมูล และนำส่งตัวไปยังโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ในเวลา 19.20 น.วันที่ 5 ส.ค. โดยเสื้อผ้าของนายจิระพงษ์ ขณะส่งต่อโรงพยาบาลไม่มีการถอดแต่อย่างใด และมีการมอนิเตอร์ตลอดทาง ยังคลำชีพจรได้ จนกระทั่งมาถึงที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ มีเลือดออกในช่องท้องและขาดสัญญาณชีพ เสียชีวิตที่โรงพยายาลในเวลา 13.20 น. วันที่ 6 ส.ค.64 โดยก่อนเสียชีวิต แพทย์พยายามปั๊มหัวใจ 30 นาที แต่ไม่เป็นผล เบื้องต้นแพทย์ลงสาเหตุการตายว่ามาจากการเสพยาเพราะมีการจากตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด จึงลงไว้เบื้องต้น และระบุไว้ด้วยว่า อาจมาจากการขาดอากาศหายใจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน