จับเพิ่มอีก1 แก๊งหลอกเด็กนร.วัย 17 เล่นแชร์-จนต้องชิงทอง ทำหน้าที่เปิดไอจี-เคลียร์หากมีผู้เสียหายไม่ยอม ตำรวจไซเบอร์เร่งสอบเส้นทางเงิน
เมื่อวันที่ 21 ก.ย.64 ที่กองกำกับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. เปิดเผยถึงความคืบหน้าตำรวจไซเบอร์จับกุมนางสาวธิดาวรรณ หรือธัญญ์นภัส บุญกล้า ผู้ต้องหาหลอกเด็กนักเรียนสาววัย 17 มาเล่นแชร์ จนเป็นเหตุให้ไปก่อเหตุชิงทองว่า
ตำรวจไซเบอร์ขยายผลเข้าจับกุมน.ส.ณิฐชมนต์ หรือชี เจริญฐิติยศกุล อายุ 30 ปี ได้ในโรงแรมหรูกลางเมืองย่านอโศก หลังหลบหนีออกจากคอนโดหรูย่านบางนา หลังทราบข่าวว่าเพื่อนร่วมเครือข่ายโดนตำรวจจับกุมตัวดำเนินคดีไปแล้ว
พ.ต.อ.ณัฐภณ จินตะนานุช ผกก.3 บก.สอท 2 เปิดเผยว่า หลังตำรวจไซเบอร์จับกุมน.ส.ธัญญ์นภัส ผู้ต้องรายแรกได้ ได้สอบปากคำขยายผลจนผู้ต้องหายอมซัดทอดให้ข้อมูลว่ามีน.ส.ณิฐชมนต์ เป็นผู้ร่วมขบวนการอีก 1 ราย ทำหน้าที่เปิดไอจีและคอยเคลียร์หากมีผู้เสียหายไม่ยอมและเข้าแจ้งความ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 รายรู้จักกันตั้งแต่ปี 2562 และน.ส.ธัญญ์นภัสเป็นลูกหนี้ของน.ส.ณิฐชมนต์ โดยติดหนี้ก้อนใหญ่ จนเริ่มมีความคิดที่จะหาเงินมาใช้หนี้ น.ส.ธัญญ์นภัสจึงวางแผนและให้น.ส.ณิฐชมนต์ ทำหน้าที่เปิดไอจี เพื่อเป็นช่องทางหลอกลวงและเป็นแอดมิน เพื่อคอยดูแลไอจี ส่วนน.ส.ธัญญ์นภัสทำหน้าที่การตลาดหลอกลวงลูกค้า
พ.ต.อ.ณัฐภณ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบน.ส.ธัญญ์นภัส ยังไม่พบสมุดบัญชีที่เชื่อมโยง แต่รับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในการก่อเหตุ 2 วงแชร์ ได้รับเงินส่วนแบ่ง 4 แสน บาท เงินทั้งหมดได้นำไปใช้จ่ายทั่วไปหมดแล้ว จากการแกะรอยของเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ ต้องใช้วิธีแกะรอยจากแกร็บคาร์ที่ผู้ต้องหาเรียกมารับที่คอนโดหรู เพื่อใช้หลบหนีไปที่โรงแรมย่านอโศก ก่อนรวบรวมหลักฐานและขอหมายจับจนนำไปสู่การจับกุมตัวในครั้งนี้ ขณะที่ดำเนินการต่อไปของเจ้าหน้าที่ อยู่ระหว่างกาาขอรายการเดินบัญชีของผู้ต้องหาทั้งหมดจากสถาบันทางเงินอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบว่ามีการรับโอนเงินที่ได้จากการหลอกลวงมามากน้อยเท่าใด
