“กลุ่มบิ๊กไบก์”รวมตัว ประท้วงรพ.เอกชนดัง ทำคลอดเด็กเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2564 ที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.สนามเป้า ถนนพหลโยธิน กทม. มีกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์รวมถึงรถยนต์นั่งเปิดประทุนกว่า 20 คัน รวมตัวติดป้ายเรียกร้องให้โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านสนามเป้า ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง หลัง 1 ในสมาชิกพาภรรยาไปคลอดลูกที่โรงพยาบาล แต่อยู่ๆน้องเสียชีวิตหลังคลอด โดยที่ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ทั้งๆที่ตอนทำคลอดแจ้งว่าน้องปกติ

โดยขบวนรถมีนางนฤดี ม่วงกำจัด คุณแม่ที่ได้สูญเสียลูกสาวไปถือภาพน้องเฟย์ ลูกสาวที่คลอดออกมาลืมตาดูโลกได้แค่ 2 ชั่วโมง อยู่บนรถเก๋งเปิดประทุน นำขบวนแห่ไปยังบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนเลี้ยวกลับเข้าถนนพหลโยธิน ผ่านโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังดังกล่าว เรียกร้องให้โรงพยาบาลที่ทำคลอดน้อง ออกมาชี้แจงถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงของลูกสาว

ขณะที่รถบิ๊กไบก์และรถเก๋งทุกคันที่ร่วมขบวน ต่างติดป้ายข้อความเรียกร้องให้โรงพยาบาลออกมาชี้แจงกรณีการเสียชีวิตของน้อง อาทิ “เด็กตายที่โรงพยาบาล แต่อ้างว่าไม่มีกล้องวงจรปิด”

ด้านนายปรีชา ศรีแสงจันทรา ซึ่งเป็นคุณพ่อน้องเฟย์กล่าวว่า พาภรรยาไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลดังกล่าวกระทั่งภรรยาคลอดลูกสาวเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยการคลอดธรรมชาติ

หลังภรรยาคลอดลูก พยาบาลก็นำลูกไปให้คุณหมอเด็กดูแลต่อ เห็นว่าพยาบาลนำน้องไปอีกห้องหนึ่ง เพื่อทำการรักษาบางอย่าง เมื่อเข้าไปสอบถามว่าน้องเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ จนสุดท้ายผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง คุณหมอเดินออกมาบอกว่าน้องเสียชีวิตแล้ว

หลังจากนั้นได้ไปขอประวัติการรักษาน้องมาตรวจสอบพบว่ามีความผิดปกติหลายอย่าง เฉพาะการรักษาด้วยการฉีดสารอะดรีนาลีนไปที่หัวใจน้องถึง 6 ครั้ง จนมาถึงทุกวันนี้พยายามสอบถามถึงสาเหตุแต่โรงพยาบาลกลับบ่ายเบี่ยงและไม่ชี้แจงสาเหตุที่แท้จริง

กลับระบุว่าทางโรงพยาบาลไม่ผิด แต่จะมอบเงินจำนวน 1 ล้านบาทให้กับพ่อแม่ในฐานะที่เป็นผู้สูญเสีย ซึ่งพ่อและแม่มองว่าชีวิตของลูกทั้งคนไม่สามารถแลกได้ด้วยเงิน 1 ล้านบาท

ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก Narudee Muangkamjud โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เล่าความรู้สึกถึงการสูญเสียลูกคนแรก ที่เฝ้ารอคอยมานานถึง 9 ปีเต็ม ว่า เราชื่อน้ำ มีสามีชื่อบี เราสองคนคบกันดูแลกันมาประมาณ 8 ปี เราสองคนช่วยกันทำงาน สร้างเนื้อสร้างตัว ทำธุรกิจมาด้วยกัน

เราสองคนวาดฝันไว้อย่างนึงนั้นคือการได้มีลูกด้วยกัน พวกเราพยายามกันมาตลอด 8 ปีที่คบกันมา จนกระทั้งเข้าปีที่ 9 เหมือนฝันนั้นเป็นจริง เหมือนความพยายามของเราที่ผ่านมาไม่สูญเปล่า เราท้อง ดีใจอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ สามีเราก็ดีใจและตื่นเต้นมาก

แน่นอนว่าลูกใครๆก็รัก และเราในฐานะพ่อแม่ ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของเราอยู่แล้ว เราตัดสินใจฝากท้องและเลือก รพ ที่ดีที่สุดอันดับต้นๆของประเทศไทย เป็น รพ เอกชนแถวๆอนุเสาวรีย์ชัยฯ

หลังจากฝากท้องที่ รพ ที่ว่าเราก็สองคนก็ดูแลและใส่ใจมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะตอนนี้ไม่ได้มีแค่เราสองคนแล้ว จะมีเจ้าตัวน้อยอีกชีวิตหนึ่งที่กำลังจะลืมตามาดูโลก โลกที่เราพร้อมจะยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้เขาได้ใช้ชีวิตและเติบโตมาอย่างมีความสุข

จนในที่สุดเราก็ไปคลอดที่ รพ เอกชนดังกล่าว ทุกอย่างราบรื่นไปด้วยดี เรานึกในใจ 8 ปีที่รอคอยกับสามี 8 ปีที่เราพยายามวันนี้ เราจะมีเจ้าหนู เจ้าตัวเล็กแล้ว หลังจากนั้นหมอก็เข้ามาทำคลอดเรา ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี เราคลอดธรรมชาติเอง แอบได้ยินเสียงลูกร้องเบาๆ ด้วยความเพลียยังไม่มีแรงพอจะลุกขึ้นไปดูลูก ก็ปล่อยให้หมอทำคลอดส่งต่อให้หมอเด็กไปดูแลต่อ

หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงเราก็นอนรออยู่ในห้องพักพื้นก็คิดในใจว่าอิจฉาสามีเราจัง ที่ได้ออกไปดูลูกคิดขำๆละก็ยิ้มอยู่คนเดียว จนเวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง สามีเราก็เดินเข้ามาหาที่ห้องพัก พร้อมกับจับมือและมองหน้าเรา ตอนนั้นคิดว่าคงเป็นห่วงเรามากแหละที่เห็นเราอ่อนเพลียกับการคลอดลูก

แต่แล้วประโยคหนึ่งก็ออกมาจากปากของสามีเรา เป็นประโยคที่เชื่อว่าไม่มีพ่อ หรือแม่คนไหนในโลกนี้อยากได้ยิน และไม่อยากแม้แต่จะคิด ประโยคนั้นที่สามีบอกกับเราคือ “น้องเสียแล้วนะ เมื่อกี้เอง หมอแจ้งว่ายังไม่รู้สาเหตุ”

มันเหมือนกับว่าโลกจากสีชมพูมันกลายเป็นสีดำ จากความสุขมันกลายเป็นความเศร้า ตกใจ และใจหายอย่างบอกไม่ถูก เราสับสนไปหมดว่ามันเป็นเพราะอะไร มันเกิดอะไรขึ้นกัน ทำไมมันต้องเกิดกับเราด้วย เมื่อ 2 ชั่วโมงที่แล้วเขายังอยู่กับเราในห้องคลอด เรายังได้ยินเสียงลูกร้องอยู่เลย มันอะไรกัน ทำไมต้องเป็นเรา เราสับสนไปหมด

เรื่องแบบนี้มันเกิดจากความผิดพลาดของหมอ เกิดจากความผิดปรกติของน้อง หรือเป็นเพราะเรากันแน่ เราเสียใจมาก มากที่สุดเท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะรู้สึกเสียใจได้มากขนาดนี้ เราได้ถามกับทางสามีว่ามันเกิดอะไรขึ้น สามีบอกกับเราว่าหมอแจ้งว่าไม่สามารถระบุการตายได้ น้องเสียโดยไม่ทราบสาเหตุ

เรางงไปหมดจากที่หวังไว้จะได้จัดงานวันเกิดให้ลูกกลับกลายเป็นว่าต้องมาจัดงานศพให้แทน ใครเคยมีเพื่อนมีญาติหรือเคยเจอเหตุการณ์คล้ายกับเราบ้างไหม ในกรณีนี้เราสามารถทำอะไรได้บ้าง ตอนนี้กำลังใจในชีวิตแทบจะหมดสิ้น มันมืดมนไปหมด จนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว คิดถึงแทบขาดใจ

ส่วนทางด้านนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความชื่อดัง ซึ่งเป็นญาติกับพ่อแม่เด็กระบุว่าตอนนี้เตรียมดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว เนื่องจากมีการตรวจสอบเอกสารการรักษา พบว่ามีความผิดปกติไม่สอดคล้องกัน

เช่น แพทย์ที่ทำคลอดระบุในเอกสารว่าน้องมีอัตราการเต้นของหัวใจมากกว่า 100 ซึ่งปกติ แต่แพทย์เด็กกลับระบุในเอกสารว่า น้องมีอัตราการเต้นของหัวใจต่ำกว่า 100 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังคลอดเวลาเดียวกัน

ส่วนอีกอย่างที่พบความผิดปกติคือแพทย์ที่ทำคลอด ระบุว่าน้องมาคลอดตามกำหนดคือ 9 เดือนเต็ม แต่แพทย์เด็กกลับระบุในเอกสารสาเหตุการตายว่าน้องมาคลอดก่อนกำหนด

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามโรงบาลพยาบาลเอกชนดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ก็ได้รับแจ้งว่ายังอยู่ในระหว่างกระบวนการที่เจ้าหน้าที่รับเรื่องและจะประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดต่อกลับ เพื่อแจ้งรายละเอียดให้รับทราบต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน