ปภ.รายงาน 11 จังหวัดยังมีน้ำท่วมหนัก ชาวบ้านเดือดร้อน 9,860 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย ระบายน้ำ-ช่วยเหลือประชาชน

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 15 พ.ย.64 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัย รวม 11 จังหวัด โดยมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 10-15 พ.ย.64 ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 9 จังหวัด รวม 42 อำเภอ 129 ตำบล 536 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,860 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 2 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 จังหวัด (ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา) รวม 21 อำเภอ 93 ตำบล 458 หมู่บ้าน

ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,794 ครัวเรือน ในขณะที่อิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.-15 พ.ย. 64 ทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง

โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 7 จังหวัด (หนองบัวลำภู อุบลราชธานี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม) รวม 24 อำเภอ 258 ตำบล 1,685 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 93,755 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 35 ราย

ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายในหลายพื้นที่แล้ว ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เร่งระบายน้ำและให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 10-15 พ.ย.64 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ตรัง ภูเก็ต และพังงา รวม 42 อำเภอ 129 ตำบล 536 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,860 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 2 ราย (ชุมพร)

ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา รวม 21 อำเภอ 93 ตำบล 458 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,794 ครัวเรือน สถานการณ์ในภาพรวมระดับน้ำลดลง ดังนี้

1.ชุมพร น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหลังสวน อำเภอทุ่งตะโก อำเภอสวี อำเภอพะโต๊ะ อำเภอเมืองชุมพร และอำเภอปะทิว รวม 46 ตำบล 348 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,022 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 2 ราย ระดับน้ำทรงตัว

2.สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดอนสัก อำเภอท่าชนะ อำเภอไชยา อำเภอเกาะสมุย และอำเภอกาญจนดิษฐ์ รวม 15 ตำบล 36 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 950 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

3.นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอพระพรหม อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอท่าศาลา อำเภอนาบอน อำเภอบางขัน และอำเภอทุ่งสง รวม 20 ตำบล 53 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 260 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

4.สงขลา น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา อำเภอ อำเภอระโนด และอำเภอสทิงพระ รวม 12 ตำบล 21 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 562 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

ขณะที่อิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.-15 พ.ย. 2564 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 7 จังหวัด (หนองบัวลำภู อุบลราชธานี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม) รวม 24 อำเภอ 258 ตำบล 1,685 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 93,755 ครัวเรือน แยกเป็น

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 จังหวัด รวม 3 อำเภอ 9 ตำบล 40 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 765 ครัวเรือน ได้แก่

5.หนองบัวลำภู ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอโนนสัง รวม 5 ตำบล 14 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 188 ครัวเรือน

6.อุบลราชธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และอำเภอวารินชำราบ รวม 4 ตำบล 26 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 577 ครัวเรือน

ภาคกลาง 5 จังหวัด รวม 21 อำเภอ 249 ตำบล 1,645 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 92,990 ครัวเรือน ได้แก่

7.สุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสองพี่น้อง และอำเภอบางปลาม้า รวม 28 ตำบล 267 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23,053 ครัวเรือน

8.อ่างทอง ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอไชโย อำเภอป่าโมก และอำเภอวิเศษชัยชาญ รวม 29 ตำบล 142 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,467 ครัวเรือน

9.พระนครศรีอยุธยา ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน และอำเภอลาดบัวหลวง รวม 106 ตำบล 380 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 49,385 ครัวเรือน

10.ปทุมธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี อำเภอสามโคก และอำเภอลาดหลุมแก้ว รวม 25 ตำบล 81 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,176 ครัวเรือน

11.นครปฐม ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี อำเภอสามพราน อำเภอกำแพงแสน และอำเภอดอนตูม รวม 61 ตำบล 475 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,909 ครัวเรือน

ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายในหลายพื้นที่แล้ว ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ

สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมสรรพกำลังในการระบายน้ำออกจากพื้นที่ และดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ฯ

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน