รมว.แรงงานเผย เอสเอ็มอีกว่า 2 แสนราย ขอเยียวยาลูกจ้าง 2.8 ล้านคน จ่ายหัวละ 3 พัน เป็นเวลา 3 เดือน ปิดลงทะเบียนพรุ่งนี้ ขอทบทวนสิทธิ 21-27 พ.ย.64

เมื่อวันที่ 19 พ.ย.64 นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยความคืบหน้าโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ดำเนินการโดยกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กำลังจะสิ้นสุดระยะเวลาลงทะเบียนในวันที่ 20 พ.ย.นี้ ว่า

หลังเปิดให้นายจ้าง สถานประกอบการเอสเอ็มอีลงทะเบียนรับสิทธิ เป็นระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งมีสถานประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้ว 201,761 ราย หรือร้อยละ 51.12 ช่วยรักษาระดับการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทย 2,873,878 คน หรือร้อยละ 71.25

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เหลือเวลาลงทะเบียนเพียง 1 วัน จากนั้นระบบจะปิดรับลงทะเบียนในเวลาเที่ยงคืนวันเดียวกัน และเริ่มเปิดให้ดำเนินการยื่นเรื่องขอทบทวนสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ “ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th” ตั้งแต่วันที่ 21-27 พ.ย.64

สำหรับนายจ้างภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม (ฐานทะเบียนข้อมูลประกันสังคม มาตรา 33 สถานะ Acive) ที่มีลูกจ้างรวมทุกสาขาไม่เกิน 200 คน ณ วันที่ 16 ต.ค.64 แต่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์แล้วระบบแจ้งว่า “ขาดคุณสมบัติ” หรือเปลี่ยนเจ้าของกิจการ เนื่องจากเจ้าของเดิมเสียชีวิต หรือสาเหตุอื่นๆ ก่อนวันที่ 16 ต.ค.64 รวมทั้งกรณีอื่นๆ

“สำหรับนายจ้าง สถานประกอบการ ที่ยังมีความกังวลว่าจะมีการคิดภาษีย้อนหลัง จากเงินจำนวนนี้ที่รัฐบาลอุดหนุน ผมขอยืนยันอีกครั้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความตั้งใจจะอุดหนุนเงินช่วยนายจ้างในโครงการนี้ เพื่อเสริมสภาพคล่อง สร้างความแข็งแรงและฟื้นฟูกิจการในธุรกิจเอสเอ็มอี โดยไม่มีการนำเงินอุดหนุนไปคิดเป็นรายได้ หรือคำนวณเป็นรายจ่ายในการหักภาษีแต่อย่างใด” รมว.แรงงาน กล่าว

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดี กกจ. กล่าวว่า เมื่อนายจ้าง/สถานประกอบการเอสเอ็มอีที่อยู่ในระบบประกันสังคม และมีลูกจ้างรวมทุกสาขาไม่เกิน 200 คน ลงทะเบียนร่วมโครงการฯ และตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแล้ว จะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลในอัตรา 3,000 บาทต่อลูกจ้างสัญชาติไทย 1 คนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564-เดือนมกราคม 2565

“ในกรณีที่นายจ้างไม่สามารถลงทะเบียนร่วมโครงการฯ ผ่านระบบด้วยตนเอง สามารถนำเอกสารซึ่งประกอบด้วย หนังสือมอบอำนาจติดอากรแสตมป์ 30 บาท สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร (กรณีใช้บัญชีกระแสรายวัน ให้ใช้สมุดหน้าเช็คที่มีชื่อนายจ้างและเลขบัญชี) และสำเนาหนังสือรับรองการจะทะเบียนนิติบุคคล หรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (นายจ้างบุคคลธรรมดา)

โดยลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ ติดต่อที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ หรือหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมให้ติดต่อได้ที่ โทร.1506 กด 2 หรือ โทร.1694” นายไพโรจน์ กล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน