สืบภาค 2 นำกำลังบุกทลาย แก๊งเงินกู้ออนไลน์ หลอกเหยื่อวัย 15 ปีหมดตัว หวังนำเงินช่วยครอบครัว จับ 3 ผู้ต้องหา ยึดของกลางกว่า 4 แสนบาท

วันที่ 26 พ.ย.2564 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.ภ.2 เปิดเผยว่า ชุดลาดตระเวนออนไลน์ (ONLINE PATROL) ของ บก.สส.ภ.2 ได้ลาดตระเวนพบกลุ่มมิจฉาชีพในรูปแบบการปล่อยเงินกู้ทางออนไลน์ แพร่ระบาดจำนวนมาก จึงทำการสืบสวนเพื่อทลายเครือข่ายให้สิ้นซาก โดยดำเนินการสืบสวนจากคดีมีผู้เสียหายจากการโดนฉ้อโกงทางออนไลน์ ในรูปแบบเงินกู้

ซึ่งได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา คือ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ซึ่งผู้เสียหายต้องการกู้เงินเพื่อมาลงทุนขายของออนไลน์ แบ่งเบาภาระของพ่อแม่ ซึ่งครอบครัวมีความขัดสนด้านการเงินอยู่แล้ว ก็ยังถูกหลอกให้โอนเงินในรูปแบบการดำเนินการก่อนกู้เงิน 5 ครั้ง รวมค่าเสียหายเป็นเงิน 5,700 บาท โดยทำทีให้คุยกับเจ้าหน้าที่ ประธานบริษัท นายทุน เลขา ลูกจ้าง ทำเสมือนเป็นระบบบริษัท

สืบภาค 2 นำกำลังบุกทลาย แก๊งเงินกู้ออนไลน์ หลอกเหยื่อวัย 15 ปีหมดตัว หวังนำเงินช่วยครอบครัว จับ 3 ผู้ต้องหา

สืบภาค 2 นำกำลังบุกทลาย แก๊งเงินกู้ออนไลน์ หลอกเหยื่อวัย 15 ปีหมดตัว หวังนำเงินช่วยครอบครัว จับ 3 ผู้ต้องหา

แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับเงินกู้ใด ๆ ตามที่ตกลงกันไว้ โดยกลุ่มคนร้ายตั้งใจหลอกลวงทั้งที่รู้ว่าผู้เสียหายมีอายุเพียง 15 ปี ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ได้เดินทางไปซักถามข้อมูลผู้เสียหายเพิ่มเติมด้วยตนเอง และเห็นความยากลำบากของครอบครัวผู้เสียหายหลังถูกหลอก พร้อมให้กำลังใจและให้สัญญากับครอบครัวผู้เสียหายว่า “จะตามจับให้ครบทุกคน แล้วเอาเงินทุกบาททุกสตางค์มาคืนให้”

ก่อนดำเนินการสืบสวนขยายผลจนทราบว่า กลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้มีการร่วมกันทำเป็นขบวนการ มีผู้ร่วมขบวนการ 5 คน มีการเปิดธุรกิจในรูปแบบบริษัทบังหน้าเพื่อใช้ในการฟอกเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด จึงรวบรวมพยานหลักฐานและได้ขออนุมัติศาลจังหวัดฉะเชิงเทราออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการที่มี 5 คน ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, โดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน”

ก่อนที่ พล.ต.ต.ธีรเดช หัวหน้าชุดปฏิบัติ บูรณาการร่วมกับ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดปฏิบัติการที่ 5, สภ.เมืองฉะเชิงเทรา, ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย นำหมายค้นศาลจังหวัดเชียงรายเข้าทำการตรวจค้นบ้านพัก ม.5 หมู่บ้านเอื้ออาทร ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นที่ตั้งตามข้อมูลนิติบุคคล ของ ห.จ.ก.กิ่งทองแม่สาย และบ้านพัก ม.5 หมู่บ้านเอื้ออาทร ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย

จากการตรวจค้นพบ 1.เงินสด รวมจำนวน 278,000 บาท 2.เครื่องประดับ มูลค่าประมาณ 100,000 บาท 3.สมุดบัญชีเงินฝาก รวมจำนวน 7 เล่ม 4.บัตรกดเงินสด รวมจำนวน 11 ใบ 5.โทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง รวมทั้งสิ้น ประมาณ 400,000 บาท และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาในเครือข่ายดังนี้ 1.นายอานนท์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทราที่ 397/2564 ลงวันที่ 24 พ.ย.2564

2.นายแปง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทราที่ 398/2564 ลงวันที่ 24 พ.ย.2564 และ 3.น.ส.กิ่งกาญจน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทราที่ 399/2564 ลงวันที่ 24 พ.ย.2564 ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับว่า มีการเปิดธุรกิจ ห.จ.ก.กิ่งทองแม่สาย เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่งข้ามชายแดนไทย-เมียนมาเท่านั้น ไม่ได้มีการหลอกลวงปล่อยเงินกู้แต่อย่างใด

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า แม้มูลค่าความเสียหายเพียง 5,700 บาท อาจมองดูไม่มาก แต่สำหรับครอบครัวที่ต้องหาเช้ากินค่ำ จะได้รับผลกระทบอย่างสาหัส ส่งผลเสียหายต่อการดำรงชีวิตและจิตใจอย่างมาก และหากไม่เร่งดำเนินการจับกุม กลุ่มมิจฉาชีพก็จะก่อเหตุสร้างความเสียหายให้กับประชาชนอีกเป็นจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่เข้าพบผู้เสียหายเพื่อสอบสวน ก่อนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิด

เจ้าหน้าที่เข้าพบผู้เสียหายเพื่อสอบสวน ก่อนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน