พ่อสุดเศร้า อโหสิกรรมให้ทหาร กระหน่ำยิง 8 นัด ฆ่าลูกสาวหน้าอำเภอ หลังนัดหย่าฝ่ายชาย เผยเหตุผลลูกไม่ยอมกลับไปอยู่ด้วยกับฝ่ายชาย

จากกรณี พลอาสาประยงค์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี กระหน่ำยิง 8 นัด น.ส.เชาวนี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ภรรยาที่นัดกันมาหย่าเสียชีวิต ภายในรถกระบะที่จอดอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากนั้น พลอาสาประยงค์ขับรถหลบหนีไปที่ศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ ห่างจากที่เกิดเหตุและใช้ปืนยิงศีรษะตัวเองเสียชีวิตที่ศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร ตามเสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : แต่ง8เดือนขอหย่า! ผัวทหารรัว 8 นัดฆ่าเมียหน้าอำเภอ หนีเข้าศาลหลักเมืองตายตาม

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ธ.ค.2564 ที่วัดพระใหญ่ ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ญาติพี่น้องของ พลอาสาประยงค์ ที่ก่อเหตุฆ่าภรรยาของตนเอง ได้ช่วยกันจัดเตรียมสถานที่เพื่อเตรียมจัดงานศพของ พลอาสาประยงค์ โดยมีการจัดตั้งโลงศพ นำเอารูปของพลอาสาประยงค์ในเครื่องแบบเต็มยศมาประดับข้างโลงศพ เพื่อรอรับศพของพลอาสาประยงค์ ซึ่งขณะนี้ศพยังอยู่ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษเพื่อชันสูตรศพ จากนั้นคาดว่าญาติจะรับศพของพลอาสาประยงค์กลับมาประกอบพิธีทางศาสนาในช่วงบ่ายวันนี้

พ่อสุดเศร้า อโหสิกรรมให้ทหาร กระหน่ำยิง 8 นัด ฆ่าลูกสาวหน้าอำเภอ

พ่อสุดเศร้า อโหสิกรรมให้ทหาร กระหน่ำยิง 8 นัด ฆ่าลูกสาวหน้าอำเภอ

ขณะเดียวกัน ที่บ้านเขวา ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ ซึ่งห่างจากวัดพระใหญ่ประมาณ 4 กิโลเมตร ญาติพี่น้องของ น.ส.เชาวนี ได้ช่วยกันจัดเตรียมสถานที่เพื่อเตรียมจัดงานศพของ น.ส.เชาวนีที่ถูกยิงเสียชีวิต โดยญาติพี่น้องได้ช่วยกันกางเต็นท์และจัดเตรียมอาสนะพระสงฆ์ พร้อมทั้งจัดเก้าอี้เพื่อรอรับแขกเหรื่อที่จะมาร่วมไว้อาลัยในงานศพ

 

โดยมี นายสันติชัย อายุ 63 ปี พ่อของ น.ส.เชาวนี และญาติช่วยกันเตรียมงาน ส่วนนางถวิล แม่ของ น.ส.เชาวนี ได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ เพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติมประกอบสำนวนคดีตามกฎหมาย

นายสันติชัย กล่าวด้วยน้ำเสียงโศกเศร้าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ตนเสียใจมาก เพราะไม่คาดคิดว่าพลอาสาประยงค์จะก่อเหตุฆ่าลูกสาวของตน ซึ่งก่อนเกิดเหตุพลอาสาประยงค์ไม่เคยมาที่บ้านของตนแต่อย่างใด แต่ล่าสุดเมื่อประมาณ 2 วันที่ผ่านมา พลอาสาประยงค์ได้เข้ามาที่บ้านของตน เพื่อที่จะมาตามตัว น.ส.เชาวนี กลับไปอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ แต่ลูกสาวบอกว่าไม่สามารถทนกับพฤติกรรมความหึงหวงอย่างรุนแรงของพลอาสาประยงค์ได้อีกต่อไปแล้ว และได้นัดหมายไปหย่าร้างกันที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์

 

นายสันติชัย กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนได้อโหสิกรรมให้กับพลอาสาประยงค์และครอบครัวที่ก่อเหตุฆ่าลูกสาวของตน หากว่าไม่เอาอโหสิกรรมเรื่องก็คงไม่จบสิ้น จะต้องเป็นเวรเป็นกรรมกันอีก ส่วนการตั้งศพของลูกสาวตนนั้นจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลประมาณ 3 วัน จึงจะประกอบพิธีฌาปนกิจศพต่อไป

“สิ่งหนึ่งที่ผมสงสัยก็คือ ทหารทำไมจึงได้ถือปืนมาไล่ยิงคนตายแบบนี้ ไม่ใช่มีเฉพาะตำรวจหรือที่มีสิทธิถือปืนเข้ามาในที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ ไม่ทราบว่าเป็นปืนจากไหน เป็นปืนส่วนตัวหรือว่าเป็นปืนของทางราชการ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบดำเนินคดีตามกฎหมายในเรื่องนี้ด้วย ทั้งนี้ น.ส.เชาวนี มีลูก 2 คน คนเล็กเป็นผู้ชายเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 และคนโตเป็นผู้หญิง เรียนอยู่ชั้น ม.4 เด็กทั้ง 2 คนต้องกลายเป็นลูกกำพร้าแม่ ผมแก่แล้วแต่ต้องมารับภาระเลี้ยงดูหลานทั้ง 2 คน ไม่ทราบว่า จะสามารถเลี้ยงหลานได้นานเท่าใด และจนบัดนี้ฝ่ายก่อเหตุยังไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือดูแลแต่อย่างใด” นายสันติชัย กล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน