จากกรณีชาวเน็ตแชร์คลิปอุบัติเหตุ รถบรรทุก 22 ล้อ ขับปาดชนรถเก๋ง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้น คนขับได้หลบหนีไปจากที่เกิดเหตุก่อนที่วันนี้ จะเข้ามอบตัว พร้อมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 ธ.ค. ที่ สน.บางขุนเทียน นายแพร ภูเชิดสาย อายุ 36 ปีคนขับรถพ่วง 22 ล้อ พร้อมด้วย นายวิฐิสิริ มิ่งขวัญ ผู้จักการบริษัท เบญจสิริมิ่งขวัญแก้ว ทรานสปอร์ต จำกัด และฝ่ายกฎหมาย เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน หลังขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไปจากที่เกิดเหตุ

หลังจากสอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนจึงคุมตัวลงมาจากห้องสอบสวน เพื่อนำตัวไปขออำนาจศาลแขวงบางบอนฝากขัง โดยระหว่างเดินไปขึ้นรถ คนขับรถพ่วง ก็ยกมือขอโทษผู้บาดเจ็บ และสังคมกับสิ่งที่ทำลงไป

นายแพร กล่าวว่า ตนขับมาช่องทางซ้าย ก่อนที่ล้อรถด้านหน้าจะตกหลุมขนาดใหญ่ทาง ทำให้เสียหลัก รถสะบัด จนประคองรถไม่อยู่ ทำให้สูญเสียการควบคุม โดยยืนยันว่า ตนไม่ได้แซงรถบรรทุกที่เลนกลาง และยืนยันว่าขับมาด้วยความเร็วปกติ คือ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนสาเหตุที่หนีไปเพราะตกใจ ทำอะไรไม่ถูก ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ยืนยันเป็นอุบัติเหตุ และหลังเกิดเหตุตั้งสติไม่อยู่ และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดครั้งแรก และตอนเกิดเหตุไม่ได้เมา เพราะไม่ดื่มสุรา

ด้าน นายวิฐิสิริ กล่าวว่า เหตุการที่เกิดขึ้นถ้าดูจากกล้องวงจรปิดจะเห็นได้ว่าเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ เพราะรถพ่วงได้ขับมาในเลนซ้ายสุด จากนั้นเกิดตกหลุมท่อระบาด จนรถเสียหลัก ผู้ขับขี่ไม่สามารถควบคุมรถให้อยู่ในทางจนไปกระแทกรถเก๋งคู่กรณีจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้ก่อเหตุหนีไปที่จ.สมุทรปราการ ตนพยายามติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ตนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าผู้ก่อเหตุได้ติดต่อกลับมาว่าอยากเข้ามอบตัว จนจึงนัดหมายและพาผู้ก่อเหตุไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บก่อน จากนั้นจึงเดินทางมามอบตัวที่ สน.บางขุนเทียน

สำหรับประวัติการขับรถของผู้ก่อเหตุนั้นทำงานที่บริษัทฯ มานานเกือบ 10 ปี ไม่เคยมีประวัติเฉี่ยวชนในลักษณะที่รุนแรงแบบนี้ ลักษณะนิสัยเป็นคนขี้กลัว พอหลังเกิดเหตุรู้สึกตกใจกลัวจึงนั่งรถแท็กซี่หลบหนี ก่อนติดต่อมาหาตนเพื่อให้พาเข้ามอบตัว โดยปกติแล้วผู้ก่อเหตุมีความคุนเคยกับเส้นทางเนื่องจากใช้เส้นทางนี้ไปส่งของที่ จ.สมุทรปราการเป็นประจำ

ทั้งนี้ยืนยันว่ารถของทางบริษัทฯ มีความพร้อมใช้งาน ตรวจเช็คสภาพตามระยะทางที่กำหนด และไม่ใช้รถเก่าอย่างแน่นอน ส่วนมาตราการหลังจากนี้สำหรับผู้ก่อเหตุนั้นต้องบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุที่ไม่ได้เป็นความตั้งใจ หรืออยากให้เกิดจึงพิจารณาไปตามกระบวนการ ทางด้านการเยียวยาผู้บาดเจ็บ ตนได้รับผิดชอบให้เบื้องตนแล้ว หลังจากนี้คงให้ประกันเป็นผู้จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายต่อ แต่ถ้ามีโอกาสอยากพาผู้ก่อเหตุไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บด้วยตัวเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน