สุดช็อกประวัติ หัวหน้ารปภ.บุกขืนใจลูกบ้านสาวถึงห้อง เปิดวงจรปิดหลังลงมือหื่น แฉทำทีมาเคาะประตูห้องของผู้เสียหายและเข้าไปลงมือก่อเหตุ
วันที่ 5 ม.ค.65 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. ในฐานะโฆษกบช.น. เปิดเผยถึงกรณีนายมนตรี ใหญ่กระโทก หัวหน้ารปภ. คอนโดมิเนียมย่านฝั่งธนบุรีบางแค ก่อเหตุขืนใจลูกบ้านสาว อายุ 36 ปี เมื่อกลางดึกวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า วันนี้พนักงานสอบสวนจะขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น และบุกรุกเคหะสถานในยามวิกาล ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัว โดยยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของแหล่งที่อยู่ของคนร้าย ส่วนการดำเนินคดีกับนิติบุคคลฯของคอนโดมิเนียม ที่ไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจในการเข้าไปจับกุมคนร้าย โดยอ้างว่าไม่มีหมายค้นและอยู่ในยามวิกาลนั้น กรณีนี้แม้ว่าจะไม่ได้มีหมายค้น แต่ตำรวจสามารถเข้าไปตรวจสอบติดตามจับกุมคนร้ายได้ เนื่องจากเป็นเหตุเฉพาะหน้าที่รับแจ้งจากผู้เสียหายโดยตรง
ฉะนั้นนิติบุคคลฯ ต้องให้ความร่วมมืออำนวยความสะดวกแก่ตำรวจ เพื่อติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งกรณีนี้ถือว่าเข้าข่ายความผิดข้อหาขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน และช่วยเหลือผู้กระทำความผิด เพื่อให้พ้นจากการจับกุมของเจ้าพนักงาน ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจ สน.เพชรเกษม
“จากการตรวจสอบประวัติย้อนหลังยังพบว่า คนร้ายเคยมีคดีก่อเหตุลักษณะดังกล่าวกับเยาวชน ที่จ.สระแก้ว เมื่อปี 2556 ด้วย นอกจากนี้ต้องตรวจสอบกับบริษัทรักษาปลอดภัยที่รับคนร้ายเข้ามาทำงาน เนื่องจากคนร้ายเคยต้องโทษในคดีข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งตามพ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย ระบุว่าห้ามรับบุคคลใด ที่ต้องโทษคดีความผิดทางเพศ เข้าทำงานเป็นรปภ. หากบริษัทรปภ.ไม่ตรวจสอบประวัติย้อนหลังกับผู้ที่มาสมัครเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ก็จะเข้าข่ายมีความผิดด้วยเช่นกัน” โฆษกบช.น. กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กล้องวงจรปิดคอนโดจับภาพนาทีที่รปภ.หื่นพาช่างกุญแจมายังห้องของผู้เสียหาย ก่อนจะย้อนกลับมาก่อเหตุและลงมือหื่นอีกรอบ โดยทำทีมาเคาะประตูห้องของผู้เสียหายและเข้าไปลงมือก่อเหตุดังกล่าว
