กองปราบ บุกรวบ เท้าแชร์ “จักรวาลหอมทรัพย์ปี5” หลอกลงทุนผ่านเฟซบุ๊ก สร้างภาพส่งเงินกำไรคืนลูกค้า เหยื่อหลงเชื่อนับร้อย เสียหายกว่า 100 ล้านบาท

วันที่ 7 ม.ค.2565 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ต.พิชญา ทวิชศรี สว.กก.3 บก.ป. ร่วมกันแถลงจับกุม น.ส.กัลยาณี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี หรือ เท้าแชร์ “จักรวาลหอมทรัพย์ปี 5”

ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 775/2564 ลง 8 ธ.ค.2564 ข้อหา “เป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร มีจำนวนวงแชร์รวมกันมากกว่าสามวง มีสมาชิกรวมกันทุกวงมากกว่าสามสิบคน” และหมายจับคดีลักษณะเดียวกันของตำรวจท้องที่อื่น ๆ อีก 7 หมายจับ หลังตามจับกุมตัวได้ที่หน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งพื้นที่ ม.4 ต.วังตะกู อ.เมือง จ.นครปฐม

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ส.ค.2564 มีกลุ่มผู้เสียหายเข้าแจ้งความกองปราบ หลังถูก น.ส.กัลยาณี ซึ่งใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Kanlayanee Kapook” หลอกชักชวนให้ลงทุนแชร์ลูกโซ่ ชื่อว่า “จักรวาลหอมทรัพย์ปี5” เชิญชวนสมาชิกลงทุนออมเงิน ออมทอง และแชร์วง อ้างว่า เมื่อครบกำหนดก็จะได้รับเงินลงทุนพร้อมเงินปันผลในอัตราที่สูง

โดยผู้ต้องหาได้ออกอุบายสร้างความน่าเชื่อถือบนเพเพจเฟซบุ๊ก ด้วยการรีวิวภาพส่งเงินลงทุนพร้อมผลกำไรคืนให้กับลูกค้า วันละหลายแสนบาท ทำให้มีเหยื่อที่หลงเชื่อร่วมลงทุนด้วยนับร้อยราย คิดเป็นเงินกว่า 100 ล้านบาท หลังจากนั้นไม่นาน ผู้ต้องหาก็ปิดบัญชีเฟซบุ๊กและปิดกลุ่มเพจ ก่อนหอบเงินทั้งหมดหลบหนีไป

ต่อมา พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เห็นว่า ปัจจุบันคดีแชร์ลูกโซ่ที่มีการใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือ ก่อเหตุหลอกลวงประชาชนเป็นจำนวนมาก สร้างความเสียหายมหาศาล และยังทำให้ชาวบ้านที่ตกเป็นเหยื่อได้รับความเดือดร้อน จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี และ พ.ต.อ.วิวัฒน์ เร่งดำเนินการสืบสวน

กองปราบ บุกรวบ เท้าแชร์ "จักรวาลหอมทรัพย์ปี5" หลอกลงทุนผ่านเฟซบุ๊ก สร้างภาพส่งเงินกำไรคืนลูกค้า

กองปราบ บุกรวบ เท้าแชร์ “จักรวาลหอมทรัพย์ปี5” หลอกลงทุนผ่านเฟซบุ๊ก สร้างภาพส่งเงินกำไรคืนลูกค้า

หลังจากใช้เวลานานกว่า 3 เดือน ก็พบว่าคดีนี้มีจำนวนผู้เสียหายเกือบ 500 ราย ต่างเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจในหลายท้องที่ ความเสียหายมาก 100 ล้านบาท แบ่งเป็น “วงแชร์” เสียหายประมาณ 11 ล้านบาท “ออมเงิน” ความเสียหาย 38 ล้านบาท และ “ออมทอง” เสียหายอีก 88 ล้านบาท ส่วนตัวผู้ต้องหา ก็ส่งทีมสืบสวนเฝ้าติดตามมาโดยตลอด กระทั่งเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ก็มีการขอหมายค้นเข้าตรวจสอบที่บ้านพักของผู้ต้องหาซึ่งไหวตัวทันและหลบหนีไปได้ ก่อนที่จะตามจับกุมตัวได้ในที่สุด

พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบสวน น.ส.กัลยาณี ให้การรับสารภาพ แต่ไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดในชั้นจับกุมว่า เงินที่ได้มาจากการหลอกลวงนั้นนำไปใช้จ่ายอะไรบ้าง จึงนำตัวส่งสภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมกับประสานตำรวจพื้นที่ที่ออกหมายจับ ติดต่อขออายัดตัวไปดำเนินคดีต่อไป

ด้าน น.ส.เอ (นามสมมุติ) ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเริ่มเล่นมาได้ 4 ปี ลงทุนครั้งแรกไปประมาณ 3 แสนบาท แรก ๆ จะเป็นแชร์ขั้นบันได แชร์เปียทั่ว ๆ ไป พอเข้าปีที่ 4 ปีที่ 5 ก็จะมีออมเงิน ออมทองเพิ่มขึ้นมา ซึ่งตอนแรกมีผลกำไรที่ดี ตนจึงชักชวนเพื่อนและญาติพี่น้องมาลงทุนด้วย ก็ได้ผลกำไรตามปกติ

ผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า พอมาเมื่อกลางปี 64 เริ่มทราบปัญหา แต่ก็ยังมีการโอนเงินผลกำไรให้ตามปกติ ภายหลังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อจู่ ๆ ตัวผู้ต้องหาได้ไลฟ์สดร้องไห้พร้อมขอโทษ บอกเราจะอยู่ไปด้วยกัน จนมีเพื่อนมาบอกว่า ผู้ต้องหาปิดเพจหนีไปแล้ว

น.ส.เอ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้ทวงถามผ่านแชท แต่ไม่มีการตอบรับ เคยตามไปหาตัวที่บ้านแต่ไม่พบ จนมีการนัดหมายจากทนายความฝ่ายผู้ต้องหา อ้างว่าให้ไปรับเงินคืน แต่เมื่อไปถึงก็ไม่เคยเจอตัว ยอมรับว่าเครียดมากเพราะเงินที่ลงทุนไปก็ไม่ใช่น้อย ๆ และยังมีเงินของเพื่อน และญาติที่ฝากมาลงทุนด้วย ต่างเดือดร้อนกันหมด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน