เพื่อนกันทำได้ลง! สาวร้องกองปราบถูกเพื่อนสมัยเรียนหลอกลงทุนปิดหนี้ธนาคาร สุดท้ายมารู้ว่าถูกหลอก ไม่มีการลงทุนใดๆ มือจิกหัวกลางโรงพักทวงหนี้

กรณีมีผู้แชร์ภาพคลิปวิดีโอของหญิงสาวคู่หนึ่ง กำลังด่าทอทะเลาะวิวาท ถึงขั้นลงมือจิกผมกันบน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ก่อนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาห้าม ระบุข้อความว่า “สำหรับแค่นี้ยังน้อยไป สำหรับคนโกงไปเกือบ 10 ล้าน ช่วยกันแชร์เผื่อใครรู้จักจะได้ระมัดระวังกันไว้ฯ” จนเกิดวิพากษ์วิจารณ์ตามสื่อออนไลน์ต่างๆ ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 14 ม.ค.65 ที่กองบังคับการปราบปราม นางรวิกร ชุนหะศรี อายุ 40 ปี พร้อมผู้เสียหายอีก 3 คน เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.วิทธวัช สาคะรินทร์ รอง สว.สอบสวน กก.2 บก.ป. เพื่อแจ้งความเอาผิด น.ส.เปิ้ล (นามสมมุติ) หญิงสาวในคลิปที่ถูกจิกผม พร้อมแฟนหนุ่ม ในข้อหา “ฉ้อโกง” หลังถูกหลอกให้นำเงินมาร่วมลงทุนจนสูญเงินรวม 30 ล้านบาท

นางรวิกร เปิดเผยว่า ตนคือหญิงสาวที่ปรากฎในคลิปดังกล่าวจริง เหตุที่ทำไปเพราะโกรธแค้นน.ส.เปิ้ล ที่มาหลอกให้ไปร่วมลงทุนเป็นเงินกว่า 12 ล้านบาท จนต้องกลายเป็นหนี้สิน ทั้งที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนประถมศึกษา โดยก่อนเกิดเหตุน.ส.เปิ้ลมาชักชวนให้ร่วมลงทุนปิดหนี้ธนาคาร หรือปิดหนี้แบล็คลิสต์ให้ลูกค้าที่ต้องการทำเรื่องเพื่อกู้สินเชื่อกับธนาคารใหม่

อ้างว่าหลังจากลูกค้าทำเรื่องกู้ผ่านแล้ว ตนก็จะได้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยอัตราสูง ด้วยความไว้ใจเพื่อน ประกอบกับเห็นว่าระยะหลัง น.ส.เปิ้ลมีความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ทำให้หลงเชื่อทยอยนำเงินร่วมลงทุนไปรวม 2 ล้านบาท ช่วง 2-3 วันแรก ก็ได้รับเงินค่าตอบแทน แต่หลังจากนั้นก็เงียบหายไป

นางรวิกร กล่าวอีกว่า เมื่อเห็นว่ายังไม่ได้รับผลตอบแทน จึงพยายามทวงถามขอเงินคืน แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง ก่อนที่น.ส.เปิ้ลจะออกอุบายให้นำเงินมาร่วมลงทุนทำปั๊มน้ำมันที่จ.ฉะเชิงเทรา แล้วก็จะได้เงินทั้งหมดกลับคืน ด้วยความที่อยากได้เงินก้อนแรกกลับคืน จึงลงทุนเพิ่มไปอีก 10 ล้านบาท รวมแล้วเป็นเงิน 12 ล้านบาท

จนสุดท้ายมารู้ว่าถูกหลอก เพราะไม่มีการลงทุนใดๆ กระทั่งทราบข่าวว่าน.ส.เปิ้ล เดินทางมาที่สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหายรายอื่น ตนจึงเดินทางมาดักรอจนกลายเป็นเหตุการณ์ตามที่ปรากฎในคลิปดังกล่าว และเมื่อทราบว่า ยังมีเหยื่อที่ถูกหลอกลักษณะเดียวกับตนอีกหลายคน จึงรวมตัวมาเข้าแจ้งความเพื่อเอาผิด น.ส.เปิ้ลและแฟนหนุ่มด้วย

นางรวิกร กล่าวด้วยว่า ส่วนที่คู่กรณีแจ้งความเอาผิดตนกรณีไปจิกผมนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่สามารถทำได้ ซึ่งตนก็ยอมรับว่าทำจริง เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป

ภาพบางส่วนจาก อมรินทร์ทีวี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน