ผลสอบ 11 เจ้าอาวาส ซัดทอด ‘เจ้าคุณแจ๊ค’ ปมเงิน 123 ล้าน โยงอดีตผอ.สำนักพุทธ-ครอบครัว แจงเจอถุงยาง-เหล้า อ้างของลูกศิษย์

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 ก.พ.65 ที่สภ.เมืองนครนายก พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป. นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการ “ล้างบาปปราบอลัชชี ทุจริตเงินทอนวัด” ว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตรวจยึดโฉนดที่ดิน 3 แปลง มูลค่ากว่า 21 ล้านบาท เหล้า 3 ขวด ถุงยางอนามัย 1 ชิ้น และปืนบีบีกัน 1 กระบอก

พ.ต.อ.พิทักษ์ เปิดเผยว่า จากแนวทางการสอบสวนพบว่า นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มอบหมายให้ พระสิทธิวรนายก หรือ เจ้าคุณแจ๊ค เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน ที่สนิทสนมกันเป็นการส่วนตัว รวบรวมรายชื่อวัดที่จะรับเงินบูรณะซ่อมแซมจากทางสำนักพุทธศาสนา 12 วัด งบประมาณ 123 ล้านบาท เมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว พระสิทธิวรนายกจะเจรจากับเจ้าอาวาสวัดต่างๆ ที่ได้รับเงินอุดหนุน ให้ถอนเงินสดออกมาทั้งหมดแล้วนำกลับมาคืน แล้วแบ่งเงินเพียงบางส่วนทอนให้วัดต่างๆ คืนไป ส่วนเงินที่เหลือประมาณ 110 ล้านบาท จะนำไปแบ่งกับนายนพรัตน์ เพื่อยักย้ายถ่ายเทแปลงเงินสดให้เป็นทรัพย์สินมีค่าอย่างอื่น เช่น ที่ดิน ซึ่งที่ดินส่วนใหญ่ที่ซื้อจะถูกซื้อในชื่อของนางพัทธานันท์ เบญจวัฒนานันท์ ภรรยาของนายนพรัตน์ และน.ส.ณัฏฐาภรณ์ ซึ่งเป็นลูกสาวนางพัทธานันท์ โดยมีพระสิทธิวรนายก เป็นผู้ดำเนินการให้ทุกอย่าง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับนางพัทธานันท์ และน.ส.ณัฏฐาภรณ์ อีกด้วย

“ส่วนเจ้าอาวาสวัดต่างๆ ที่เหลืออีก 11 วัด ที่เชิญตัวมา เพื่อสอบปากคำในฐานะพยาน มีเพียงพระสิทธิวรนายก ที่ถูกแจ้งข้อหาตามความผิดในมาตรา 147,157,และความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน” พ.ต.อ.พิทักษ์ กล่าว

ส่วนพล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า จากการสอบสวนพระสิทธิวรนายกให้การค่อนข้างเป็นประโยชน์ โดยยอมรับว่าสนิทสนมกับนายนพรัตน์จริง และเป็นผู้ดำเนินการประสานวัดต่างๆ รับมอบเงินอุดหนุน แล้วเจรจาเอาเงินกลับคืน ก่อนนำไปซื้อที่ดิน ส่วนเงิน 110 ล้านบาท จำไม่ได้ว่าแบ่งให้นายนพรัตน์ไปเท่าไหร่ และเอาไปทำอะไรบ้าง ซึ่งไม่คิดว่าการนำไปซื้อที่ดินจะถือเป็นความผิดด้วย สำหรับเหล้า ถุงยางอนามัย และปืนบีบีกันที่ค้นเจอในกุฏินั้น จากการสอบถามอ้างว่าไม่ใช่ของตนเอง แต่เป็นของลูกศิษย์ในวัดนำมาเก็บไว้

ด้าน นายศรชัย กล่าวว่า สำหรับคดีทุจริตเงินทอนวัดที่ทาง ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบมานั้นมีทั้งหมด 108 คดี ชี้มูลความผิดแล้ว 42 คดี ส่วนที่เหลือส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อ สำหรับภาพรวมความเสียหายจากการทุจริตเงินทอนวัด นับตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน ไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท

รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังพนักงานสอบสวนเชิญตัวพระสิทธิวรนายก มาทำการสอบสวน พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จสิ้นแล้วนั้น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ปล่อยตัวกลับวัดไป โดยจะนัดหมายมาสอบปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็นอีกครั้ง

ส่วนการสอบปากคำเจ้าอาวาสวัดต่างๆ ทั้ง 11 วัด ในฐานะพยาน ทั้งหมดต่างให้การที่ค่อนข้างเป็นประโยชน์และไปในทิศทางเดียวกัน คือ ให้การซัดทอดว่าพระสิทธิวรนายก เป็นผู้ให้ถอนเงินบูรณะซ่อมแซมวัด ที่ได้รับจากทางสำนักพุทธศาสนา ออกมาเป็นเงินสด แล้วนำกลับมามอบให้พระสิทธิวรนายก ที่หลังจากนั้นแบ่งเงินเพียงบางส่วนทอนคืนกลับมาให้แต่ละวัดไม่มาก อ้างว่าจะต้องเอาเงินส่วนที่เหลือไปมอบให้สํานักพุทธ เพื่อนําไปบริจาคให้กับวัดอื่นๆที่ยังขาดแคลนงบประมาณต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน