เปิดรับสมัครวันแรกคึกคัก ชัชชาติ กราบขอพรแม่ชิงตำแหน่ง เผย สาเหตุปั่นจักรยานมาสมัคร ผู้ว่าฯ กทม. เล็งใช้โซเชียลฯหาเสียง แทนปักป้าย
วันที่ 31 มี.ค.2565 ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ถ.มิตรไมตรี แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศวันแรกของการเปิดรับสมัครผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. 50 เขต เป็นไปอย่างคึกคัก โดยตั้งแต่ช่วงเช้ามีประชาชนกองเชียร์ของว่าที่ผู้สมัครแต่ละคน เริ่มทยอยเข้ามายังพื้นที่เพื่อรอให้กำลังใจพร้อมถือป้ายเชียร์ และสวมเสื้อทีมบริเวณลานช้างเอราวัณ
โดยเมื่อเวลา 06.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ในนามอิสระมาถึงเป็นคนแรก โดยการขี่จักรยานมาพร้อมกับขบวนทีมงาน อีกทั้งมี นายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าฯกทม. เดินทางมาให้กำลังใจด้วย
นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า สาเหตุที่เลือกปั่นจักรยานมา เพราะเป็นวิถีชีวิตตอนเช้าที่ใช้การเดินทางแบบนี้อยู่แล้ว ได้เห็นสภาพเมืองและวิถีชีวิตคนกทม. เพื่อที่จะนำไปปรับปรุงหากมีโอกาสได้เข้ามาทำงานให้คนกทม. คือ นโยบายเน้นเมืองสีเขียว และเมืองปลอดมลพิษ เน้นการใช้รถอีวี และเดินทางระบบโดยระบบการขนส่งสาธารณะ วันนี้ตนตื่นเต้นมากเพราะเป็นการลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งแรก
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หลังจากจับสลากได้เบอร์แล้ว ตนจะเดินสายหาเสียงโดยใช้รถสาธารณะ เช่น บีทีเอสไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนจะไปที่เส้นถนนสีลม จากนั้นจะมีการใช้รถอีวีหาเสียง ส่วนตัวไม่เน้นขึ้นรถแห่เพราะเห็นว่าเป็นการสร้างมลพิษให้เมือง การหาเสียงในครั้งนี้จะเน้นการหาเสียงผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียเพราะมองเห็นว่าป้ายหาเสียงไม่ได้ตอบโจทย์ให้คนจดจำให้ผู้สมัครเสมอไป และเป็นการรบกวนประชาชน
นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า การหาเสียงครั้งนี้เน้นไปที่กลุ่มนิวโหวต คนรุ่นใหม่ คาดหวังว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับคนกทม. เพราะเป็นกลุ่มคนที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับกทม. และคนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ให้กับเมืองต่อไปในอนาคต ส่วนตัวมองว่าการได้เบอร์ไหนไม่สำคัญ เพราะจะเน้นที่การทำงานมากกว่า
นายชัชชาติ กล่าวว่า ก่อนเดินทางมาเช้านี้ได้ไปกราบแม่พร้อมขอพรให้ได้ตำแหน่ง แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เสียใจ เรามีสโลแกนว่าอยากให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน ไม่ได้ดูแลเฉพาะคนบางกลุ่ม เพราะทุกคนต้องไปด้วยกันกับเรา โดยจากการลงพื้นที่ของตนเชื่อว่ากรุงเทพมีความหวังขึ้นมาได้
“ผมอยากให้ประชาชนเลือกจากตัวตนของเรา ไม่ใช่เห็นป้ายแล้วเลือกเรา เพราะป้ายก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ทั้งหมดของยุคปัจจุบัน กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความหวัง ถ้าเราปรับให้ถูกทาง เมืองจะก้าวกระโดด และช่วงนี้จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่หากเรามีผู้บริหารที่ไปถูกทาง เราจะฟื้นตัวได้เร็ว” นายชัชชาติ กล่าว